
4 June 2011
คำถามหนึ่งที่ผมมักจะได้รับในฐานะคนที่สอนและเกี่ยวข้องกับแวดวง MBA ก็คือ แนวโน้มของ MBA ในบ้านเราจะเป็นอย่างไร ซึ่งคำตอบส่วนใหญ่นั้นก็มาจากข้อสังเกตส่วนตัวของผม มาสัปดาห์นี้ผมมีตัวเลขจากการสำรวจมานำเสนอต่อท่านผู้อ่านแล้วครับ เพียงแต่เสียดายที่ไม่ใช่ตัวเลขความต้องการในการศึกษา MBA ในบ้านเรา แต่เป็นการสำรวจถึง Hot Spots หรือประเทศหรือภูมิภาคที่มีแนวโน้มการเติบโตและความต้องการในการศึกษาทางด้าน MBA ที่สูง
รายงานการศึกษาครั้งนี้จัดทำขึ้นโดย QS Intelligence Unit เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยมีการสอบถามบรรดาผู้ว่าจ้างบัณฑิต MBA กว่าห้าพันคนใน 36 ประเทศทั่วโลก เพื่อแสดงให้เห็นถึงความต้องการผู้ที่จบการศึกษาด้าน MBA ในสายตาหรือมุมมองของผู้ว่าจ้างงาน ในสหรัฐอเมริกาที่เป็นต้นตำรับของ MBA นั้น ก็เป็นที่น่าแปลกใจครับว่าความต้องการผู้ที่จบการศึกษาด้าน MBA เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 9% ในขณะที่ทางฝั่งยุโรปนั้นความต้องการเพิ่มขึ้นเพียงแค่ 3%
ท่านผู้อ่านลองเดาดูนะครับว่าในประเทศหรือในภูมิภาคไหนที่ความต้องการในบัณฑิต MBA จะสูงที่สุดในโลก เชื่อว่าส่วนใหญ่คงเดาถูกนะครับว่าคงหนีไม่พ้นกลุ่มประเทศที่เราเรียกเป็น Emerging Markets หรือตลาดที่กำลังเติบโตทั้งหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มประเทศ BRIC ที่ประกอบด้วยบราซิล รัสเซีย อินเดีย และจีน ในกลุ่มประเทศ BRIC ด้วยกันนั้นอินเดียมีการเติบโตในความต้องการผู้ที่จบ MBA สูงสุดครับ (เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา) โดยมีอัตราการเติบโตถึง 43% ตามมาด้วยบราซิลที่ 25% รัสเซีย 22% และจีน 19%
นอกเหนือจากกลุ่ม BRIC แล้ว ประเทศในตะวันออกกลางอย่าง UAE ก็มีความต้องการบัณฑิต MBA เพิ่มขึ้น 22% หรือประเทศที่มีความต้องการเพิ่มขึ้นสูงสุดคือ Kazakhstan นั้นคือเพิ่มขึ้นถึง 65% ทั้งนี้เกิดขึ้นจากบริษัทต่างๆ ที่รัฐบาลเป็นเจ้าของต่างต้องการผู้ที่จบ MBA กันอย่างมากมายทั้งผู้ที่จบในประเทศและต่างประเทศ
ความต้องการในผู้ที่จบ MBA ในประเทศเศรษฐกิจใหม่เหล่านี้ก็นำไปสู่พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้เรียน MBA เช่นเดียวกันนะครับ นั้นคือผู้เรียนจะมีความเป็น International MBA มากขึ้น และความเป็นนานาชาตินั้นก็แตกต่างจากอดีตด้วยครับ เนื่องจากในอดีตผู้ที่เรียน MBA จากทั่วโลกต่างมุ่งไปหางานทำในประเทศตะวันตกอย่างเช่นสหรัฐและยุโรป แต่พออัตราความต้องการผู้ที่จบ MBA ในประเทศเศรษฐกิจใหม่เพิ่มมากขึ้น การไหลของผู้จบ MBA ก็กลับไปในอีกทิศทางหนึ่งครับ ประเทศเป้าหมายของผู้ที่จบ MBA กลับเป็นประเทศจีน อินเดีย ประเทศในตะวันออกกลาง หรือ อเมริกาใต้กันมากขึ้น ทำให้ผู้ที่ขวนขวายไปเรียน MBA ที่อเมริกาแทนที่เมื่อจบแล้วจะดิ้นรนหางานทำต่อที่อเมริกาก็จะกลับไปทำงานที่ประเทศตนเองมากขึ้น
ในหลายๆ ประเทศอาทิเช่นรัสเซีย MBA กลายเป็นใบเบิกทางสู่ความเป็นผู้จัดการที่ประสบความสำเร็จ ผู้ที่คิดจะอยู่ในโลกธุรกิจนั้นจะต้องมี MBA เป็นเสมือนกับใบเบิกทางพื้นฐานเลย ในรัสเซียนั้น ผู้ที่จบ MBA จะได้รับความคาดหวังว่าจะสามารถทำงานได้จริง แต่ในขณะเดียวกันก็มีความรู้ที่เป็นระบบ และมีเครือข่ายของเพื่อนฝูงที่กว้างไกล
สำหรับในประเทศใกล้ๆ เราอย่างเช่นจีนนั้น จะมีสถาบันที่เปิดสอนทางด้านบริหารธุรกิจใหม่ๆ ผุดขึ้นเต็มไปหมดเลยครับ แม้กระทั่งเทศบาลเมืองเซี่ยงไฮ้ก็มีแนวคิดจะสร้างสถาบันการศึกษาทางด้านบริหารธุรกิจขึ้นมา (ชื่อ Shanghai Advanced Centre for Finance) เพื่อแข่งกับสถาบันอื่นๆ ที่มีอยู่แล้วของจีน และจากการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน ทำให้บริษัทต่างๆ ต้องแย่งชิงตัวผู้ที่จบ MBA มาจากอเมริกาและยุโรป ทำให้ผู้ที่จบ MBA จากต่างประเทศแล้วกลับมาทำงานที่จีนไม่เพียงพอกับความต้องการ ส่งผลให้สถาบันการศึกษาทางด้านธุรกิจใหม่ๆ หลายแห่งผุดขึ้นมาในประเทศจีน
การศึกษาครั้งนี้ถือว่าน่าสนใจนะครับ และน่าจะมีการศึกษาในลักษณะเดียวกันในประเทศไทยบ้าง จากการที่สถาบันการศึกษาต่างๆ เปิด MBA ในรูปแบบต่างๆ ออกมาเต็มไปหมด ก็ทำให้เกิดคำถามเหมือนกันนะครับว่าอนาคตการศึกษาทางด้าน MBA ของไทยจะไปในทิศทางไหน
ก่อนจบขอฝากประชาสัมพันธ์หน่อยนะครับ หลักสูตร Strategy Management Program รุ่นที่ 2 ของคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ กำลังเปิดรับสมัครอยู่นะครับ เป็นหลักสูตร 74 ชั่วโมงที่เน้นในการศึกษาทางด้านกลยุทธ์โดยเฉพาะครับ ถ้าท่านผู้อ่านสนใจรายละเอียดก็สามารถโทรศัพท์ไปสอบถามได้ที่ 02-218-5765