
18 November 2025
ในระยะหลังคำว่า ‘Future Ready’ จะเป็นคำที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Future Ready Organization, Future Ready Board หรือ Future Ready Leader ถ้าแปลเป็นไทยตรงๆ ก็คือเรื่องเกี่ยวกับการเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต ถ้านำคำว่า Future Ready ไปเติมต่อหน้าคำต่างๆ ก็จะกลายเป็นเรื่องของการเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตในเรื่องราวนั้นๆ
การเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตไม่ใช่เรื่องใหม่ เพียงแต่ในช่วงที่ผ่านมาการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยต่างๆ เป็นไปอย่างมากและรวดเร็วขึ้นทุกขณะ มีการนิยามไว้ว่า Future Ready เป็นความสามารถในการคาดการณ์ถึงการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น เข้าใจถึงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลง และสร้างขีดความสามารถและศักยภาพที่จะปรับก่อนที่สถานการณ์จะบังคับให้ต้องปรับ
การเป็น Future Ready นั้นไม่ใช่แค่การพร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลง แต่ควรจะต้องมองไปข้างหน้า คาดการณ์ถึงการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น และปรับตนเองก่อนที่จะถูกสถานการณ์บังคับให้ปรับ การเป็น Future Ready Organization นั้นผู้บริหารและองค์กรจะต้องมีความสามารถในการมองไปในอนาคต จับกระแสการเปลี่ยนแปลงทั้งภายในและภายนอก มองเห็นภาพความเป็นไปได้ในหลายๆ ฉากทัศน์ ปรับและสร้างสรรค์ทั้งกลยุทธ์และการดำเนินงานของตนเองให้คล่องตัวและยืดหยุ่น เพื่อให้พร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น
องค์กรที่พร้อมสำหรับอนาคต จะต้องมีมุมมองและวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลและยาวกว่าแค่การมองปัญหาและความท้าทายเฉพาะหน้า จะต้องเป็นการเตรียมพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงในอนาคตในเชิงรุก ไม่ใช่เชิงรับที่รอให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแล้วค่อยปรับตัว แต่จะต้องพอจะมองเห็นภาพการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น และปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว องค์ประกอบขององค์กรที่พร้อมสำหรับอนาคตประกอบด้วย
- มองไกล หรือ Anticipation – มองอนาคตให้เห็นก่อนคนอื่น มี Future Mindset มองเห็นแนวโน้มที่กำลังมา พฤติกรรมลูกค้าที่กำลังเปลี่ยนไป หรือ เทคโนโลยีที่จะมาส่งผลกระทบต่อองค์กร จะต้องไม่เกิดภาวะตกใจหรือแปลกใจจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น สามารถมองเห็นแม้กระทั่งสัญญาณที่อ่อนที่สุด (Weak Signals) และวางแผนสำหรับความเป็นไปได้ต่างๆ ในอนาคต
- คล่องตัว หรือ Agile – เป็นองค์กรที่สามารถการปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว มีความคล่องตัวทั้งในแง่ของการตัดสินใจ ความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง สามารถปรับแผน ปรับ Business model ได้อย่างรวดเร็ว
- ฟื้นไว หรือ Resilience – มีความยืดหยุ่นที่เมื่อเจอแรงกระแทกหรือล้มแล้ว สามารถลุกได้และกลับมาแข็งแกร่งกว่าเดิม สามารถฟื้นไว้ได้ทั้งในมิติด้านการเงิน โครงสร้างธุรกิจ การดำเนินงาน หรือ วัฒนธรรมองค์กร
- ใฝ่รู้ หรือ Continuous Learning – เป็นองค์กรที่ไม่หยุดที่จะเรียนรู้และเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว ทั้งเรียนรู้จากลูกค้า คู่แข่ง พนักงาน หรือ จากความผิดพลาดของตนเอง
- มีเป้า หรือ Purpose-Driven – ไม่ใช่ทำธุรกิจไปวันๆ แต่รู้ว่าทำไปเพื่ออะไรและทำไปทำไม ไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยตัวเลขเพียงอย่างเดียวแต่มีเป้าหมายและความหมายของการทำธุรกิจที่ชัดเจน
ถ้าสรุปจากองค์ประกอบข้างต้น จะพบว่าองค์กรที่พร้อมสำหรับอนาคต จะต้องมีความสามารถในการ มองไกล – คล่องตัว – ฟื้นไว – ใฝ่รู้ – มีเป้า นอกจากนี้ยังมีคำถามง่ายๆ ห้าข้อที่สามารถนำมาถามตนเองว่าองค์กรพร้อมสำหรับอนาคตหรือยัง ประกอบด้วย
1. องค์กรมีการติดตามเทรนด์ การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ลูกค้า กฎระเบียบอย่างเป็นระบบ และนำผลมาใช้ในการตัดสินใจจริงหรือไม่?
2. ธุรกิจหลักขององค์กรในปัจจุบัน แข็งแกร่งพอจะเป็นฐานสำหรับอนาคตหรือไม่?
3. การดำเนินงานขององค์กรสามารถที่จะปรับเปลี่ยนหรือหักเลี้ยวได้เร็วเพียงใด?
4. องค์กรมีการลงทุนและพัฒนาธุรกิจที่เป็นช่องทางในการเติบโตใหม่ๆ หรือไม่? และ
5. ผู้นำและวัฒนธรรม มีพร้อมสำหรับความไม่แน่นอนเพียงใด?
องค์กรที่ Future Ready ไม่ใช่องค์กรที่ “รู้อนาคต” แต่คือองค์กรที่ “พร้อม” ไม่ว่าอนาคตจะหน้าตาแบบไหน
