
23 September 2025
ถ้าไม่มองว่าเป็นเรื่องทางการเมืองแล้ว จะพบว่าการที่องค์กรธุรกิจมีผู้นำเฉพาะกิจ หรือ Interim Leadership เป็นเรื่องปกติ สาเหตุก็มาจากการที่ยังไม่สามารถหาผู้นำตัวจริงที่เหมาะสมได้ หรือ จากที่ผู้นำเดิมออกจากตำแหน่งไปอย่างกระทันหัน หรือ ต้องการผู้นำมาในช่วงเวลาสั้นๆ เพื่อกระทำภารกิจบางประการให้สำเร็จ
มีงานศึกษาจาก The Leadership Quarterly ที่พบว่าในองค์กรที่อยู่ระหว่างการเปลี่ยนตัวผู้นำ ร้อยละ 18-20% จะมีการใช้บริการผู้นำเฉพาะกิจ และผู้นำเฉพาะกิจสามารถทำให้เกิดทั้งเสถียรภาพและความมั่นใจให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้มากขึ้น
การใช้บริการผู้นำเฉพาะกิจมาจากหลายสาเหตุด้วยกัน อาทิเช่น อดีตซีอีโอที่อายุมากและเกษียณตนเอง โดยไม่สามารถหาผู้ทดแทนได้ หรือ อยู่ระหว่างการควบรวมกิจการ หรือ อยู่ในช่วงภาวะวิกฤต หรือ อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างองค์กร หรือ เพื่อคั่นระหว่างที่รอเวลาที่ซีอีโอคนใหม่
ผู้นำเฉพาะกิจอาจจะมาจากผู้บริหารระดับสูงในระดับรอง หรือ จากกรรมการบริษัท หรือ จากบุคคลภายนอกที่มีประสบการณ์ในการบริหารและได้รับการยอมรับ ที่สำคัญคือจะมีระยะเวลาที่ชัดเจนและไม่นาน
ถึงแม้ผู้นำเฉพาะกิจจะไม่ใช่ผู้นำในฝัน แต่ก็มีข้อดีหลายประการ เช่น ทำให้เกิดเสถียรภาพในระยะสั้น สามารถทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมเมื่ออดีตซีอีโอออกไป หรือ ระหว่างที่องค์กรกำลังเผชิญกับสถานการณ์ต่างๆ เช่น การควบรวมกิจการ หรือ เหตุวิกฤต ในองค์กรที่ไม่ได้แสวงหากำไรนั้นการมีผู้นำชั่วคราวจะช่วยทำให้การทำงานเป็นไปอย่างต่อเนื่อง สามารถสร้างความมั่นใจและเชื่อถือให้กับหน่วยงานภายนอก
ผู้นำเฉพาะกิจยังสามารถให้มุมมองที่เป็นกลางและแตกต่าง เนื่องจากรู้ตัวอยู่แล้วว่าไม่ได้มีพันธะในระยะยาวกับองค์กร ดังนั้นจึงสามารถให้มุมมองที่เป็นกลาง ใหม่และเป็นประโยชน์ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาการเมืองภายใน หรือ ผลที่จะเกิดขึ้นกับตนเองในระยะยาว สามารถปรับเปลี่ยนในสิ่งที่ไม่ดี มีการตัดสินใจที่เด็ดขาด
หลายที่แต่งตั้งผู้นำเฉพาะกิจขึ้นมาเพื่อประเมินว่าบุคคลนั้นเหมาะสมสำหรับการเป็นผู้นำที่แท้จริงขององค์กรต่อไปหรือไม่ และในหลายครั้งที่ผู้นำเฉพาะกิจก็เข้าตาและได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้นำที่แท้จริงต่อไป
ความท้าทายที่สำคัญมาจากแรงกดดันเนื่องจากระยะเวลาที่สั้น และความคาดหวังที่อาจจะสูง นอกจากนี้จากระยะเวลาที่สั้น ทำให้ผู้นำเฉพาะกิจอาจจะสนใจแต่ผลลัพธ์และเป้าหมายในระยะสั้น โดยละเลยต่อเป้าหมายในระยะยาวและความยั่งยืนขององค์กร ผู้นำเฉพาะกิจจะต้องทำให้เห็นผลในระยะสั้น แต่ขณะเดียวกันก็ต้องวางรากฐานสำหรับความยั่งยืนในระยะยาวด้วย จากงานศึกษาและวิจัยต่างๆ สามารถสรุปออกมาเป็นข้อแนะนำสำหรับผู้นำเฉพาะกิจ ได้ดังนี้
1. เริ่มต้นจากเป้าหมายที่ต้องการบรรลุ
2. กำหนดขอบเขตของอำนาจในการตัดสินใจให้ชัดเจน
3. รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับองค์กร การดำเนินงาน การเงิน งบประมาณ ผู้บริหารระดับรอง และความคาดหวังของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องให้ได้เร็วที่สุด
4. จัดลำดับความสำคัญของสิ่งที่จะต้องทำ ต้องรู้ว่าไม่สามารถแก้ปัญหาในทุกสิ่งได้ ดังนั้นจะต้องเลือกว่าจะมุ่งเน้นไปในที่เรื่องใด
5. สร้างความเชื่อมั่นผ่านการสื่อสารที่ชัดเจน
6. มุ่งเป้าไปที่ปัญหาที่ชัดเจนก่อน หรือ Quick Wins เนื่องจากความสำเร็จที่เห็นได้ชัดในระยะสั้นจะทำให้เกิดความเชื่อมั่นและเป็นที่ยอมรับ
7. อย่าละเลยต่อการวางรากฐานระยะยาว โดยเฉพาะถ้าสามารถเชื่อมชัยชนะระยะสั้นให้เข้ากับเป้าหมายระยะยาวขององค์กรได้
8. พยายามทำให้คนทุกระดับได้เข้ามามีส่วนร่วม อย่าปล่อยให้เกิดเกียร์ว่าง
9. อย่าลืมดูแลตัวเอง เพราะผู้นำระยะสั้นมักจะทุ่มให้กับงานอย่างเต็มที่เพื่อให้เกิดผลในระยะเวลาอันสั้น
จะเห็นว่าในเชิงธุรกิจนั้นผู้นำเฉพาะกิจหรือ Interim Leaders ก็ถือเป็นบุคคลที่สำคัญคนหนึ่งต่อความสำเร็จในระยะยาวขององค์กร และน่าสนใจว่าแนวคิดนี้ของภาคธุรกิจก็น่าจะสามารถนำมาปรับใช้กับการเมืองในไทยได้เช่นเดียวกัน

ความคิดนี้เคยเกิดขึ้นมาในยุคของพลเอกประยุติแล้วครับ นายกเฉพาะกิจ.
LikeLike