21 August 2011

สัปดาห์นี้เรามาคุยกันในเรื่องของกลยุทธ์บ้างนะครับ เนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมายักษ์ใหญ่ทางด้านไอทีของโลกอย่าง Hewlett-Packard ได้มีการประกาศการเปลี่ยนแปลงทางกลยุทธ์ที่สำคัญออกมา ซึ่งถ้าวิเคราะห์กันอย่างละเอียดแล้วจะเห็นว่ามีการส่งผลต่อหลายอุตสาหกรรม รวมทั้งท่านผู้อ่านและผมที่เป็นผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ทางด้านไอทีอีกด้วย

เริ่มจากการประกาศลดการพยาการณ์ยอดขายของบริษัทลง ซึ่งเป็นการประกาศเป็นครั้งที่สามแล้วตั้งแต่ Leo Apotheker เข้ามาเป็นซีอีโอเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา อีกทั้งประกาศว่าจะมีการขาย หรือ spin-off กิจการคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล การประกาศล้มเลิกแผนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ใช้ WebOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการสำหรับอุปกรณ์อิเลกทรอนิกส์แบบพกพาต่างๆ ที่ HP ได้มาเมื่อเข้าไปซื้อ Palm มาเมื่อปีที่แล้ว และ HP ได้ประกาศเข้าซื้อ Autonomy ซึ่งเป็นบริษัทซอฟแวร์ด้วยมูลค่าที่สูงกว่าราคาตลาดถึง 64% 

สิ่งต่างๆ ที่ HP ได้ประกาศไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วแสดงให้เห็นถึงการปรับตัวที่สำคัญทางกลยุทธ์ในหลายๆ ด้านของ HP นะครับ เริ่มตั้งแต่การออกจากธุรกิจคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีกำไรต่ำ และหันมามุ่งเน้นในธุรกิจซอฟแวร์ซึ่งมีกำไรสูงกว่าแทน หลายๆ ท่านคงพอจะจำกรณีของ IBM ได้นะครับที่มีการเคลื่อนไหวทางกลยุทธ์ในลักษณะเดียวกันโดยออกจากผู้ผลิตคอมพิวเตอร์โดยการขายไปให้กับ Lenovo และหันมาเน้นในด้านซอฟแวร์สำหรับองค์กรและการเป็นที่ปรึกษาทางด้านไอทีมากขึ้น 

จริงๆ ถ้าไปดูประวัติของซีอีโอคนนี้ของ HP ก็ไม่น่าแปลกใจนะครับว่าทำไมเขามองว่าซอฟแวร์จะเป็นธุรกิจหลักของ HP ในอนาคต เนื่องจากบุคคลผู้นี้เติบโตมาจาก SAP ผู้ผลิตและจำหน่ายซอฟแวร์สำหรับองค์กรจนกระทั่งเป็น CEO ของ SAP ก่อนจะมาอยู่ HP (แต่ต้องไม่ลืมกันด้วยนะครับว่าเขาออกจาก SAP อย่างไม่สวยเท่าไร และเป็นซีอีโอที่ทำให้รายได้ของ SAP ลดลงเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2003) และจากที่เขาประกาศก็ดูเหมือนว่าซีอีโอคนนี้มีนโยบายจะขยายธุรกิจต่อไปโดยการเข้าไปซื้อบริษัทซอฟแวร์ต่อไปเรื่อยๆ

การออกจากธุรกิจคอมพิวเตอร์ของ HP นั้นทำได้หลายวิธีครับ ตั้งแต่ขายบริษัท หรือ Spin-off ออกไปตั้งบริษัทใหม่ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับ HP ซึ่งก็มีผู้แซวเหมือนกันนะครับว่าต่อไปยี่ห้อคอมพิวเตอร์ของ HP อาจจะเปลี่ยนกลับไปใช้ Compaq เหมือนเดิม

สำหรับการล้มเลิกการผลิตอุปกรณ์สำหรับ WebOS ซึ่งตอนแรก HP มองไว้ว่าจะเป็นคู่แข่งสำคัญของ iOS ของแอปเปิ้ลและ Android ของ Google นั้น ก็เสมือนการตัดไฟแต่ต้นลมครับ เพราะหลังจากขายมาได้ไม่กี่เดือน ทางผู้บริหารของ HP ก็เริ่มมองเห็นแล้วครับว่าสมรภูมินี้เป็นสมรภูมิที่ไม่มีวันชนะเลย ดังนั้นแทนที่จะจมเงินหรือการลงทุนไปกับสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ก็เลยประกาศตัดเสียตั้งแต่ต้นเลย

ถ้าดูจากการปรับกลยุทธ์ของ HP ในครั้งนี้ก็เสมือนเป็นสัญญาณที่ประกาศให้รู้นะครับว่าผู้ชนะในสมรภูมิด้านไอทีประจำปีนี้คงหนีไม่พ้นแอปเปิ้ลเจ้าเก่านั้นเองครับ อีกสาเหตุหนึ่งที่ HP เลิกขายคอมพิวเตอร์ก็เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปใช้ Tablet กันมากขึ้นด้วย ซึ่งถ้าถามว่าเจ้าตลาด Tablet คือใคร ท่านผู้อ่านก็คงจะทราบกันดีอยู่แล้ว ในขณะเดียวกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็มีข่าวว่า Google ได้เข้าไปซื้อ Motorolla Mobile Unit ที่ทำหน้าที่ผลิตโทรศัพท์ของโมโตโลร่า เพื่อครอบครองสิทธิบัตรหรือความรู้ ความชำนาญด้าน Hardware ก็ยิ่งตอกย้ำให้เห็นชัดอีกครับว่า Model ของ Apple ที่มีการบูรณาการทั้ง Hardware, Software, คอมพิวเตอร์ Tablet โทรศัพท์ ช่องทางการจำหน่าย ฯลฯ เข้าด้วยกันจนเป็นโลกของ Apple เองนั้นเป็น Model ที่เหมาะสมต่อการดำเนินธุรกิจในอุตสหกรรมด้าน IT

กลับมาที่ HP ครับ ต้องถือว่าการตัดสินใจของผู้บริหาร HP ในการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในครั้งนี้เป็นการตัดสินใจท่ีเด็ดขาดนะครับ ยอมที่จะขาดทุน ยอมที่ราคาหุ้นจะร่วง แต่ยังดีกว่าพบว่าผิดแล้วยังคงตัดสินใจลงทุนในสิ่งที่ผิดอยู่จนกระทั่งสายเกินที่จะเยียวยา การพลิกและกลับกลยุทธ์ในครั้งนี้อาจจะเป็นสิ่งที่ดีต่อบริษัทในระยะยาวก็ได้ครับ และถือเป็นบทเรียนสำหรับท่านผู้บริหารให้ยอมที่จะเลิกกลยุทธ์ที่ผิดพลาดอย่างรวดเร็วก่อนที่จะเสียหายไปมากกว่านี้