10 July 2011

ท่านผู้อ่านเคยตั้งข้อสังเกตบ้างไหมครับว่าผลิตภัณฑ์หรือบริการในยี่ห้อหรือแบรนด์ใดที่อาจจะสูญหายหรือไม่มีอยู่ในปีหน้า คำถามนี้ไม่ได้เป็นคำถามที่เฉพาะท่านผู้อ่านหรือผมตั้งขึ้นมาเท่านั้นนะครับ มีนิตยสารเล่มหนึ่งชื่อ Business Insider เขาได้ลองทำนายว่าในปีหน้าจะมีแบรนด์หรือยี่ห้อใดบ้างที่สูญหายไปจากโลกนี้ไม่ว่าด้วยวิธีการใดก็ตาม ท่านผู้อ่านลองดูนะครับว่า 10 แบรนด์ที่ทางวารสาร Business Insider เขาคิดว่าจะหายไปในปีหน้านั้นตรงกับใจท่านบ้างไหม

บริษัทแรกคือ Sony Pictures ครับ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักร Sony ที่ในอดีต Sony ได้เข้าไปซื้อบริษัท Columbia Tri Star ครับ สาเหตุที่มองว่า Sony Pictures จะหายไปนั้น เนื่องจากล่าสุดผลการดำเนินงานของบริษัทนี้ก็ไม่น่าประทับใจเท่าไร ในขณะเดียวกันการดำเนินงานของบริษํัทแม่อย่าง Sony ยิ่งไม่น่าประทับใจเข้าไปอีกครับ รายได้ของเครือโซนี่ทั้งหมดลดลง 15% เทียบกับปีที่แล้ว ในธุรกิจเกมซึ่งในอดีตนำรายได้มาให้กับ Sony อย่างมหาศาลก็เผชิญกับคู่แข่งที่น่ากลัวอย่างเช่น Nintendo และ Microsoft ส่วนในธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้านั้นก็ตามผู้นำอย่าง Apple อยู่หลายขุมครับ ดูเหมือนว่าทางออกหนึ่งสำหรับโซนี่คือการขาย Sony Pictures ออกไป เพื่อนำรายได้เข้าสู่บริษัทและเป็นฐานในการพลิกฟื้นโซน่ีทั้งเครือครับ จึงเป็นที่มาของการคาดการณ์ว่าปีหน้า Sony Pictures จะหายไปเนื่องจากถูกขายให้กับบริษัทอื่น

แบรนด์ที่สองคือ A&W ที่พวกเราคุ้นเคยกันดีครับ โดยในปัจจุบัน A&W เป็นส่วนหนึ่งของ Yum! ที่มีธุรกิจร้านอาหารดังๆ อยู่หลายแบรนด์ด้วยกัน และ ทาง Yum! ก็ประกาศขาย A&W มาตั้งแต่ต้นปี และดูเหมือนจะยังหาคนซื้อไม่ได้เลยครับ สาเหตุหลักที่คาดว่า A&W จะหายไปนั้นเนื่องจากการที่ A&W มีขนาดและจำนวนที่เล็กเมื่อเทียบกับแบรนด์อาหารจานด่วนอื่นๆ ปัจจุบัน A&W มีร้านในอเมริกาอยู่ 322 ร้าน และในต่างประเทศอีก 317 ร้าน โดยเมื่อเทียบกับอีกแบรนด์ของ Yum! อย่างเช่น KFC ที่มีมากกว่าห้าพันร้านในอเมริกาและมากกว่าหนึ่งหมื่นร้านทั่วโลกแล้ว คงต้องบอกว่าไม่สามารถเทียบกันได้ครับ ยังไม่นับการไปเทียบกับผู้นำตลาดอย่าง Subway และ McDonald’s นะครับ ดังนั้นจะเห็นว่าในเชิงของแบรนด์แล้ว A&W คงจะหาทางสู้กับเจ้ายักษ์ๆ ไม่ได้ และพอมีขนาดและจำนวนสาขาที่น้อยกว่ากันมากขนาดนี้ก็ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการบริหารงานด้านต่างๆ ที่จะทำให้ต้นทุนไม่สามารถสู้กับคู่แข่งได้ ดังนั้นจึงเป็นที่คาดการณ์ว่าถ้าทาง Yum! ไม่สามารถหาคนซื้อ A&W ได้ สุดท้ายอาจจะต้องปิดแบรนด์ในตำนานนี้ไป

แบรนด์ที่สามคือ Saab รถยนตร์ของสวีเดนที่เคยโด่งดังในประเทศไทยมาพักหนึ่ง แต่เนื่อง Positioning ของ Saab ที่ชนกับผู้ผลิตค่ายยักษ์ใหญ่ของโลกอย่างชัดเจน และในขณะเดียวกันก็ไม่ได้มีความแตกต่างที่ชัดเจนจากผู้ผลิตเจ้ายักษ์อื่นๆ ทำให้ Saab ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากครับ ในอดีตช่วงรุ่งเรืองนั้น GM ได้เข้าไปซื้อ Saab แต่หลังจากเริ่มประสบปัญหาก็พยายามขายและปล่อยให้แบรนด์นี้ตายไป จนในที่สุด ก็ถูกซื้อไปโดย Spyker ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ในระดับบน แต่ปีที่แล้วก็มีปัญหาครับ เนื่องจากทั้งปีขายรถได้เพียง 32,000 คันทั่วโลก และ Spyker ก็เริ่มประสบปัญหาทางด้านการเงิน จนกระทั่งต้องหันไปพึ่งบริษัทจากจีนให้เข้ามาถือหุ้นใน Saab (ดังนั้นอาจจะกล่าวได้นะครับว่ารถยนต์ของสวีเดนในอดีตนั้นปัจจุบันเป็นของจีนไปหมดแล้ว) อย่างไรก็ดีการเข้ามาถือหุ้นของบริษัทจีนก็ยังไม่ได้สำเร็จลุล่วงด้วยดี อีกทั้งยอดขายที่ประมาณว่าจะต่ำ (ไม่ถึง 50,000 คันทั่วโลก) ก็ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าจะคุ้มหรือไม่ท่ีจะยังคงให้แบรนด์นี้คงอยู่ต่อไป 

แบรนด์ที่สีคือ American Apparel ซึ่งเป็นบริษัทเสื้อผ้าฮิปๆ ของอเมริกันที่เราอาจจะไม่คุ้นหูกันเท่าไรนะครับ แต่ในอดีตแบรนด์นี้ก็ยิ่งใหญ่พอสมควรครับ จากร้านจำนวน 3 ร้านและยอดขายที่ $82 million ในปี 2003 พอปี 2008 มีทั้งหมด 260 ร้านและยอดขายกว่า $545 million อย่างไรก็ดีเมื่อเทียบกับยักษ์ใหญ่ทางค้าปลีกเสื้อผ้าเจ้าอื่นๆ แล้ว American Apparel ก็ยังสู้ไม่ได้และยิ่งเผชิญกับต้นทุนการผลิต (ผ้าฝ้าย) ที่ราคาสูงขึ้นก็ทำให้บริษัทประสบกับปัญหาและเข้าใกล้ขั้นล้มละลายเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และเชื่อว่าสุดท้ายแล้วแบรนด์นี้ก็คงต้องประกาศล้มละลายและปิดตนเองไปครับ

แบรนด์ที่ห้าเราก็ไม่คุ้นครับ ชื่อ Soap Opera Digest ซึ่งเป็นนิตยสารเกี่ยวกับพวกละครของอเมริกา สาเหตุของความล้มเหลวของนิตยสารที่เคยโด่งดังในอดีตนี้ก็เนื่องจากแนวโน้มที่สำคัญสองประการครับ อย่างแรกก็คือการประกาศหยุดฉายของ Soap Opera ชื่อดังของอเมริกาอย่าง All My Children และ One Life to Live (ละครพวกนี้จะออกอากาศตอนกลางวันเป็นส่วนใหญ่ครับ) เพื่อหลีกทางให้กับบรรดา Talk Show ต่างๆ ส่วนแนวโน้มที่สำคัญประการต่อมาคือพัฒนาการของอินเตอร์เน็ตที่ทำให้บรรดาแฟนละครสามารถเข้าติดต่อข่าวสาร ความเคลื่อนไหวและเรื่องย่อละครได้บนเน็ต และไม่จำเป็นต้องซื้อนิตยสารอีกต่อไปครับ

สัปดาห์นี้ขอเริ่มที่ห้าแบรนด์แรกก่อนนะครับ สัปดาห์หน้าเราจะมาดูต่ออีกห้าแบรนด์ ซึ่งท่านผู้อ่านก็อาจจะลองเดาก่อนนะครับว่ามีแบรนด์ใดบ้าง แต่บอกใบ้ว่ามีหลายแบรนด์ที่เราคุ้นเคยกันดีทีเดียว