
24 March 2011
ถ้าถามท่านผู้อ่านว่าบริษัทไหนในโลกที่มีอัตราการเติบโตที่รวดเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ ท่านผู้อ่านอาจจะนึกถึงบรรดายักษ์ใหญ่ต่างๆ เช่น GE, GM, Microsoft แต่ถ้าผมใบ้เพิ่มเติมว่าเป็นบริษัทที่อยู่บนอินเตอร์เน็ต ท่านผู้อ่านก็อาจจะนึกถึง Goole หรือ Yahoo แต่ถ้าผมเฉลยว่าคือ Groupon ท่านผู้อ่านหลายท่านอาจจะทำหน้าสงสัยว่าคืออะไร?? Groupon เป็นบริษัทที่ตั้งขึ้นมาเมื่อสองปีท่ีผ่านมาเองครับ และ คาดว่าจะมีรายได้อยู่ประมาณ $3-$4 พันล้านหรียญในปีนี้ เพิ่มจาก $750 ล้านเหรียญในปีที่ผ่านมา สำหรับมูลค่าโดยรวมของบริษัทนั้น คาดการณ์กันว่า (เนื่องจากยังเป็นบริษัทส่วนตัวอยู่จึงยังไม่มีตัวเลขเปิดเผยออกมา) บริษัทน่าจะมีมูลค่ามากกว่า $3-$4 พันล้านเหรียญ (เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาบริษัทแสวงหาแหล่งทุนเพิ่มเติมอีก $3 พันล้าน และ บริษัทเพิ่งปฏิเสธการเข้ามาซื้อกิจการโดย Google ในมูลค่า $6 พันล้าน)
ท่านผู้อ่านที่ไม่คุ้นกับ Groupon อาจจะสงสัยนะครับว่า เจ้าบริษัทนี้เป็นบริษัทอะไรหรือ ทำไมภายในระยะเวลาจากการก่อตั้งเพียงแค่สองปี ทำไมถึงได้มีรายได้และมูลค่าบริษัทสูงขนาดนี้ ก่ออื่นคงต้องมาดูเจ้าตัว Business Model ของ Groupon ก่อนนะครับว่าเขาทำอะไร Groupon เป็นบริษัทแรกๆ ของโลกที่คิดธุรกิจ Group Coupon หรือ Deal-of-the-Day ขึ้นมา โดยเขาจะไปเจรจากับห้างร้านต่างๆ เพื่อขอส่วนลดจากร้านเหล่านั้น โดยส่วนลดนี้ก็จะเป็นส่วนลดที่ค่อนข้างสูง จากนั้นนำคูปองหรือส่วนลดนั้นมาขายต่อในเว็บ โดยเป็นลักษณะของ Deal-of-the-Day โดยที่แต่ละวันก็จะมีร้านต่างๆ หมุนเวียนกันไป และผู้ที่เข้ามาที่เว็บก็ต้องเป็นสมาชิกและให้เบอร์บัตรเครดิต และถ้าเราสนใจสินค้าหรือบริการไหน ก็กดซื้อ จากนั้น ถ้ามีคนมากดซื้อถึงจำนวนหนึ่ง (ตามที่เขากำหนดไว้) การซื้อขายนั้นก็ประสบความสำเร็จ เงินก็ถูกหักจากบัตรเครดิต และคูปองนั้นก็จะถูกส่งมาที่ผู้ซื้อทางอีเมล เพื่อให้ไปซื้อสินค้าหรือใช้บริการ ตามที่ซื้อไว้ แต่ถ้ามีคนซื้อไม่ถึงจำนวนที่กำหนด การซื้อขายนั้นก็ถือว่ายกเลิกไปครับ
Business Model ของ Groupon นั้นถือว่าทำให้ทุกฝ่าย ทั้งร้านค้า Groupon และผู้บริโภค ได้รับสิ่งที่ต้องการหมดครับ โดยผู้บริโภคก็สามารถซื้อสินค้าหรือบริการที่ตนเองต้องการได้ในราคาที่ถูกกว่าปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เศรษฐกิจอเมริกันยังไม่ฟื้นตัวนี้เช่นนี้ การซื้อของผ่านทางคูปองหรือการซื้อของและได้ส่วนลดเยอะๆ นั้น ถือเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการ ในขณะที่ทางร้านค้าเองก็ได้ประโยชน์ในการประชาสัมพันธ์สินค้าหรือบริการของตนเอง อีกทั้งทำให้มีลูกค้าเข้ามาซื้อหรือใช้บริการกันมากๆ เล่ากันว่าหลายธุรกิจที่ให้ส่วนลดผ่านทาง Groupon นั้น พอวันรุ่งขึ้นร้านแทบจะไม่สามารถรับมือกับคลื่นลูกค้าที่แห่กันมาซื้อสินค้าและบริการได้เลย (ส่วนใหญ่ Groupon จะเหมาะกับร้านที่มีขนาดเล็ก หรือ ธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้นและลูกค้ายังรู้จักไม่มาก) ส่วนตัว Groupon เองก็ได้ส่วนต่างจากส่วนลดที่ประกาศครับ เช่น Groupon อาจจะไปเจรจาขอส่วนลดร้านไว้ถึง 70% แต่พอเอามาขายหน้าเว็บ จะให้ส่วนลดลูกค้าไว้แค่ 50% ส่วนต่างที่เกิดขึ้นก็เข้าไปเป็นรายได้ของ Groupon ครับ
ความสำเร็จของ Groupon นั้นมาจากหลายสาเหตุครับ ทั้งในเรื่องของความเหมาะสมในเรื่องเวลา เนื่องจากจริงๆ แล้ว Paul Allen หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Microsoft ก็เคยตั้ง Mercata ซึ่งทำธุรกิจ Group-Discount เหมือนกัน แต่ไม่ประสบความสำเร็จและปิดตัวเองไปในยุค dot.com บูม แต่พอมาในปัจจุบัน จากกระแสของสังคมออนไลน์ที่ Groupon พยายามใช้ประโยชน์อย่างมาก ก็ทำให้ Groupon ประสบความสำเร็จขึ้นมาได้ นอกจากนี้ความสำเร็จอีกประการน่าจะมาจากฐานของลูกค้า Groupon ที่กว้าง นั้นคือเริ่มต้นจากอเมริกา ซึ่งมีเมืองขนาดใหญ่ และเมืองต่างๆ เป็นจำนวนมาก ทำให้การเติบโตของ Groupon นั้นสามารถขยายไปตามเมืองต่างๆ ของอเมริกาได้อย่างรวดเร็ว ลองคิดดูนะครับว่าถ้าธุรกิจนี้มาเริ่มต้นในประเทศเล็กๆ อย่างไทย โอกาสที่จะประสบความสำเร็จนั้นจะมีเพียงใด
อย่างไรก็ดีข้อควรระวังที่สำคัญของ Groupon ก็มีครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งลักษณะของ Business Model ที่สามารถลอกเลียนแบบได้ง่าย บริษัทต่างๆ สามารถที่จะลอกเลียนแบบหรือทำตาม Groupon ได้ไม่ยาก แถมบรรดาร้านค้าต่างๆ ก็ไม่จำเป็นต้องให้ส่วนลดในสินค้าและบริการของตนเองผ่านทาง Groupon เจ้าเดียวครับ สามารถให้ได้ผ่านหลายๆ เจ้า คู่แข่งสำคัญของ Groupon ในปัจจุบันคือ Living Social ซึ่งเป็นบริษัทที่ทาง Amazon เข้าไปลงทุน หรือในประเทศไทยเองก็มีหลายเจ้าครับ ที่ผมพอจะรู้จักและเข้าไปดูนั้นก็มี Ensogo Thailand หรือ N Coupon ก็มีครับ
ตอนนี้เริ่มมีบทความ และ งานวิจัยต่างๆ ที่เกี่ยวกับรูปแบบธุรกิจของ Groupon ออกมามากขึ้นนะครับ โดยเฉพาะอย่างย่ิงว่าความยั่งยืนของ Groupon จะเป็นอย่างไร จะสามารถยืนระยะได้นานๆ เพื่อต่อสู้กับคู่แข่งใหม่ๆ ที่จะเข้ามาได้หรือไม่ รวมทั้งเริ่มเกิดข้อสงสัยขึ้นมานะครับ จริงๆ แล้วร้านค้าต่างๆ ได้ประโยชน์จากการให้ส่วนลดเป็นจำนวนมากจริงหรือไม่? ล่าสุดทาง Groupon ก็ออกผลิตภัณฑ์ใหม่มาครับ นั้นคือ Groupon Now ที่มีเพียงแค่สองปุ่ม นั้นคือ ฉันหิว กับ ฉันเบื่อ โดยลูกค้าสามารถโหลด App นี้เข้าไปไว้ในโทรศัพท์มือถือ และเมื่อหิว และอยากจะหาร้านที่ให้ส่วนลดก็เพียงแค่กด “ฉันหิว” จากนั้นเครื่องก็จะบอกเองครับว่าจากทำเลที่เรายืนอยู่นั้นมีร้านอาหารไหนที่ให้ส่วนลดและอยู่ใกล้ๆ บ้าง ซึ่งทาง Groupon หวังว่าเจ้าบริการใหม่นี้จะเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการป้องกันการลอกเลียนแบบจากคู่แข่งขันครับ ก็คงจะต้องดูกันต่อไปครับ