
19 June 2011
ช่วงนี้เข้าใกล้ฤดูของการรับปริญญาของนิสิต นักศึกษาใหม่ในหลายๆ สถาบันแล้วนะครับ ของทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเองก็จะมีพิธีพระราชทานปริญญาบัตรในวันที่ 7-8 กรกฎาคม นี้ นอกเหนือจากความยินดีในการสำเร็จการศึกษาของบัณฑิตใหม่แล้ว บัณฑิตเหล่านี้เมื่อจบการศึกษาออกไปก็ต่างมีความฝัน มีความตั้งใจ ความมุ่งมั่นในชีวิต ที่จะทำงานให้ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บรรดาคำกล่าวอวยพรของผู้หลักผู้ใหญ่หรือผู้ที่มาแสดงความยินดีทั้งหลายที่มักจะเน้นให้ “ประสบความสำเร็จในชีวิต” และยิ่งเมื่อเห็นตัวอย่างจากบรรดารุ่นพี่ๆ หรือ ศิษย์เก่าในสถาบันตนเองที่ประสบความสำเร็จ ก็ยิ่งทำให้บัณฑิตหมาดๆ เหล่านี้อยากที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตมากขึ้น
ถ้าเรามองในมุมกลับกัน การที่บัณฑิตจบใหม่แต่ละคนมุ่งมั่นหรือมีความฝันในอันที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตนั้น ไม่ใช่สิ่งที่ผิด เนื่องจากเป็นสิทธิส่วนตัวของแต่ละบุคคล แต่ถ้าในอีกมุมมองหนึ่ง จะเป็นการทำให้บัณฑิตยุคใหม่คิดถึงแต่ความสำเร็จส่วนตัวหรือของตนเองเป็นหลักหรือเปล่า ผมเองก็เคยมีข้อถกเถียงกับรุ่นน้องที่เป็นพวก Gen Y เหมือนกันนะครับว่า เราควรจะรอให้ตัวเราเองประสบความสำเร็จก่อน แล้วถึงจะคิดที่จะช่วยผู้อื่น หรือ เราควรที่จะคิดถึงสังคมหรือผู้อื่นก่อน แล้วความสำเร็จจะตามมา
ถ้าเปรียบกับคำภาษาอังกฤษง่ายๆ ก็คือระหว่างคำว่า We ที่แสดงถึง “พวกเรา” หรือ คำว่า “Me” ที่แสดงถึงตนเองนั้น แท้จริงแล้วคำไหนควรจะมาก่อน หรือ คำไหนควรที่จะยิ่งใหญ่กว่ากัน
โดยส่วนตัว ผมมองว่าถ้าเรามัวแต่นึกถึงคำว่า Me ก็จะทำให้เรามุ่งเน้นแต่ความสำเร็จส่วนตัว ทำให้เราพยายามตะเกียกตะกายเพื่อให้ตนเองได้หรือประสบความสำเร็จในสิ่งที่ต้องการ ซึ่งสุดท้ายอาจจะทำให้ประสบความสำเร็จจริง แต่ก็เป็นความสำเร็จที่อาจจะไม่ได้มีความสุขเท่าไรนัก แต่ถ้าเราคิดถึง We ก่อน โดยพยายามทำทุกอย่างเพื่อส่วนรวม เพื่อองค์กร เพื่อสังคม หรือ เพื่อคนหมู่มาก สุดท้ายแล้วตนเองย่อมประสบความสำเร็จหรือได้ในสิ่งที่เราต้องการโดยไม่รู้ตัว
ในความหมายของผมการคิดถึง We นั้นไม่ได้จำเป็นจะต้องเป็นเรื่องของสังคมหรือ CSR เท่านั้นนะครับ เมื่อเราทำงานในบริษัท ถ้าท่านผู้อ่านคิดแต่ Me ท่านก็จะคิดถึงว่าทำอย่างไรให้ท่านก้าวหน้า ประสบความสำเร็จ เงินเดือนและตำแหน่งเลื่อนเร็วๆ แต่ถ้าท่านคิดถึง We เป็นหลัก เราก็จะมองว่าทำอย่างไรถึงจะทำให้บริษัทประสบความสำเร็จ ทำอย่างไรถึงจะทำให้งานในฝ่ายหรือแผนกสำเร็จลุล่วง ซึ่งผมมองว่าถ้าเราคิดถึง We ก่อน เมื่อองค์กรประสบความสำเร็จแล้ว ตัวบุคคลผู้ที่เป็นแรงผลักดันหรืออยู่เบื้องหลัง ก็ย่อมได้รับความสำเร็จตาม
น่าสังเกตและน่าคิดนะครับว่าคนที่เป็นผู้นำองค์กรระดับต่างๆ ในปัจจุบันเขาคิดถึง We หรือ Me ก่อนกัน? เชื่อว่าผู้นำขององค์กรที่ประสบความสำเร็จทั้งหลายจะต้องคิดถึง We เป็นหลักครับ สิ่งที่อยู่ในใจเขาเหล่านั้นคือทำอย่างไรถึงจะทำให้องค์กรประสบความสำเร็จ สามารถบรรลุต่อวัตถุประสงค์หรือวิสัยทัศน์ท่ีวางไว้ได้ เชื่อว่าผู้นำที่มัวแต่คิดถึงตนเองเป็นหลักย่อมจะไม่สามารถประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืนและแท้จริง เนื่องจากการกระทำทุกอย่างล้วนแล้วแต่มีเจตนาหรือประโยชน์ส่วนตนแอบแฝงอยู่ CEO ของ ING Direct USA ระบุไว้อย่างชัดเจนเลยครับว่า ‘Leadership is about service. It’s never about you.’
ดังนั้นจึงอยากจะฝากต่อบัณฑิตใหม่ทุกคนนะครับว่าในการทำงานไม่ว่าจะอยู่ในองค์กรใด ก็อยากจะให้คิดถึง We มากกว่า Me เพราะการคิดถึงแต่ตนเองเป็นหลักนั้น ไม่สามารถทำให้เราประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนและแท้จริงได้หรอกครับ