
13 May 2011
เนื้อหาสัปดาห์นี้ต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้วนะครับ ในเรื่องการวัดความสำเร็จในชีวิต ซึ่งผมเรียบเรียงมาจากบทความของ Clayton M. Christensen ที่ได้รับรางวัลจาก HBR ในชื่อ How Will You Measure Your Life? โดย Clayton เขาฝากคำถามสามคำถามสำหรับลูกศิษย์ที่กำลังจะจบของเขา นั้นคือ จะทราบได้อย่างไรว่ามีความสุขในชีวิตการทำงาน จะทราบได้อย่างไรว่าความสัมพันธ์ส่วนบุคคลและครอบครัวจะนำพาสู่ความสุข และ จะทราบได้อย่างไรว่าทำในสิ่งที่ถูกต้องและไม่ต้องติดคุก โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็นำเสนอแนวทางในการนำแนวคิดทางการจัดการมาตอบคำถามแรก สัปดาห์นี้เรามาดูในคำถามที่สองกันนะครับ
ในชีิวิตคนเรานั้นนอกเหนือจากการมีความสุขจากการทำงานแล้ว (ถ้าเลือกได้เชื่อว่าทุกคนอยากจะทำงานอย่างมีความสุข) แหล่งของความสุขอีกแหล่งก็มาจากครอบครัวนั้นเองครับ คำถามต่อมาก็คือจะนำหลักทางด้านการจัดการในด้านใดมาประยุกต์ใช้กับการสร้างความสุขจากชีวิตครอบครัว
ในการคิดเชิงกลยุทธ์นั้นเรามักจะเริ่มต้นจากการตั้งเป้าหมายที่องค์กรต้องการบรรลุ จากนั้นผู้บริหารก็ต้องมาคิดต่อด้วยว่าในสิ่งต่างๆ ที่จะทำเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ต้องการนั้น องค์กรจะให้ความสำคัญหรือมุ่งเน้นในเรื่องใด เนื่องจากกลยุทธ์ที่ดีนั้นไม่สามารถที่จะให้ความสำคัญได้กับทุกอย่าง จะต้องเลือกในสิ่งที่จะมุ่งเน้น จากนั้นก็ต้องมีการจัดสรรทรัพยากรต่างๆ ที่มีอยู่อย่างจำกัด ทั้งงบประมาณ บุคลากร เวลา ให้กับกลยุทธ์ที่จะมุ่งเน้น
เมื่อนำหลักการทางด้านกลยุทธ์มาปรับใช้กับชีวิตของเราก็ต้องเริ่มต้นถามกันก่อนครับว่าปัจจุบันท่านผู้อ่านมีการกำหนดเป้าหมายในชีวิตหรือยัง? ในเมื่อเราสามารถกำหนดวิสัยทัศน์หรือวัตถุประสงค์สำหรับองค์กรของเราได้ ทำไมเราจะไม่สามารถกำหนดเป้าหมายในชีวิตที่เราต้องการหรืออยากจะเป็นไม่ได้ การที่เรามานั่งทบทวนคิดถึงสิ่งที่เราอยากจะทำหรือบรรลุในชีิวิตของเรานั้นจะช่วยให้เราได้กลับมาทบทวนถึงเรื่องต่างๆ ได้มากพอสมควรนะครับ
เมื่อกำหนดเป้าหมายในชีิวิตได้แล้วก็ถึงคราวต้องมาจัดสรรทรัพยากรในชีวิตบ้างครับ องค์กรธุรกิจมีการจัดสรรงบประมาณและทรัพยากรต่างๆ ให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ แล้วตัวท่านเองละครับได้จัดสรรเวลา พลังงาน ฯลฯ ให้กับเรื่องต่างๆ อย่างไรบ้าง ปัจจุบันทุกคนเองจะมีกิจกรรมหรือสิ่งต่างๆ ที่ต้องทำมากมายนะครับ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว ลูก การทำงาน การเรียนรู้พัฒนาตนเอง การทำงานให้สังคม เพื่อนฝูง ญาติมิตร ฯลฯ ท่านมีการจัดสรรทั้งเวลา พลังงาน ทรัพยากรให้กับกิจกรรมแต่ละกิจกรรมอย่างไรบ้าง?
ถ้าท่านจัดสรรดีก็โชคดีไปครับ แต่ถ้าจัดสรรผิดก็ต้องถือว่าซวยไป ถ้าท่านอยากจะทราบว่าท่านมีการจัดสรรเวลาอย่างไร ก็ลองนึกดูนะครับว่าถ้าท่านมีเวลาว่างประมาณหนึ่งชั่วโมงในตอนเย็นท่านจะจัดสรรเวลานั้นไปทำอะไร ทำงาน? ใช้เวลากับครอบครัว? อยู่ในโลกส่วนตัว? เที่ยวกับเพื่อน? เล่น Facebook? การใช้เวลาว่างหนึ่งชั่วโมงไปกับกิจกรรมใดก็ตามสะท้อนถึงความสำคัญของการจัดสรรเวลาของท่านพอสมควรนะครับ
โดยส่วนใหญ่แล้วเรามักจะตกอยู่ในกับดักของการจัดสรรเวลาไปกับสิ่งที่เห็นผลได้ในระยะสั้น (เหมือนกับองค์กรธุรกิจทั่วไปที่มักมองแต่ผลตอบแทนด้านการเงิน) ดังนั้นการจัดสรรเวลาให้กับการทำงานเป็นหลักนั้น จะทำให้เราเห็นผลได้ในระยะเวลาไม่นาน แต่การจัดสรรเวลาให้กับลูก ให้กับครอบครัว ให้กับคนรอบข้างนั้น ถือเป็นการลงทุนระยะยาว เพราะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลนั้นไม่ได้เห็นผลในระยะสั้น ท่านอาจจะทะเลาะกับภรรยาบ้าง ลูกอาจจะดื้อบ้าง แต่เราจะไม่ทราบเลยจนกระทั่งอีกยี่สิบปีต่อจากนี้ไป ที่เราอาจจะภูมิใจในลูกและในครอบครัวของเรา
คนส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยจัดสรรทรัพยากรหรือการลงทุนให้กับครอบครัว แต่มุ่งเน้นเรื่องของความก้าวหน้าทางอาชีพหรืองานเป็นหลัก ทั้งๆ ที่ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ระหว่างคนในครอบครัวนั้นจะเป็นแหล่งที่นำความสุขสู่คนมากที่สุด ทั้งๆ ที่เราบอกว่าครอบครัวเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด แต่เรากลับจัดสรรเวลาและทรัพยากรลงไปน้อยที่สุด จำได้มีผู้ใหญ่ได้บอกผมไว้เหมือนกันครับว่าให้นึกว่าในขณะที่เรากำลังใกล้ตายนั้น ใครจะอยู่เคียงข้างเรา บุคคลในครอบครัว หรือ เจ้านายและเพื่อนร่วมงาน?