
24 September 2010
ท่านผู้อ่านลองทบทวนและประเมินตัวท่านเองดูนะครับว่าปัจจุบันท่านเป็นผู้นำหรือเจ้านายที่มีลักษณะอย่างไร เป็นเจ้านายที่ดีหรือเจ้านายที่ไม่ดี? เชื่อว่าท่านผู้อ่านจำนวนมากคงจะประเมินตัวท่านเองว่าเป็นผู้นำหรือเจ้านายที่ดี หรือ ถ้าไม่ถึงขั้นดีเด่นหรือดีมาก ก็คงไม่ได้เป็นผู้นำหรือเจ้านายที่แย่ แต่นั้นเป็นเพียงแค่ผลจากที่ตัวท่านเองประเมินตัวเองนะครับ ท่านผู้อ่านต้องอย่าลืมว่าโดยทั่วไปแล้วคนเรามักจะไม่เก่งในการหาจุดอ่อนหรือข้อผิดพลาดของตนเอง อีกทั้งไม่ค่อยยอมรับต่อความผิดพลาด ล้มเหลว หรือไม่ดีของตนเอง และยิ่งเป็นบุคคลที่ไม่ค่อยมีความสามารถเท่าใด ก็ยิ่งมักจะคิดว่าตนเองเก่งหรือโดดเด่นมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นจึงมีข้อที่น่าคิด น่าสงสัยนะครับว่าจริงๆ แล้วท่านเป็นเจ้านายที่ดีจริงตามที่ท่านประเมินตนเองหรือไม่?
จริงๆ ถ้าท่านอยากจะประเมินตนเองว่าเป็นผู้นำที่ดีหรือไม่ดีนั้น ลองถามตนเองด้วยคำถามเหล่านี้ก็ไ้ด้ครับ 1) การดำเนินงานของกลุ่มงานหรือหน่วยงานของท่านเริ่มตกลง เนื่องจากผลการดำเนินงานของหน่วยงานเป็นผลสะท้อนที่ชัดเจนถึงความสามารถของตัวผู้นำ ดังนั้นถ้าผลการดำเนินงานของหน่วยงานหรือกลุ่มบุคคลที่ท่านรับผิดชอบเริ่มตกลง ก็เป็นสัญญาณอันตรายประการหนึ่งที่สะท้อนถึงความสามารถหรือพฤติกรรมของผู้นำ อย่างไรก็ดีข้ออ้างประการหนึ่งที่ผมมักจะพบจากบรรดาผู้นำต่างๆ เมื่อผลการดำเนินงานของหน่วยงานที่ตนเองรับผิดชอบเริ่มมีปัญหาหรือตกลง ก็มักจะไม่ได้มองว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นมาจากความสามารถในการบริหารหรือพฤติกรรมของตนเอง แต่ชอบที่จะโทษถึงปัจจัยต่างๆ ที่ไม่สามารถควบคุมได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัจจัยภายนอกต่างๆ ซึ่งก็ถือเป็นจุดอ่อนโดยปกติของมนุษย์เราที่เมื่อมีความผิดพลาดเกิดขึ้นก็มักจะไม่ได้มองว่าเกิดขึ้นจากตนเอง แต่มักจะโทษปัจจัยภายนอกต่างๆ
2) เริ่มมีแรงกดดันจากผู้บริหารระดับสูงขึ้นไป ถ้าเราทำงานได้ดีอยู่แล้ว ผู้ที่เป็นผู้บริหารระดับสูงขึ้นไปมักจะไม่ค่อยมายุ่งเกี่ยวหรือกดดันต่อเราเท่าไร แต่เมื่อใดที่เริ่มมีปัญหาเกิดขึ้นไม่ว่าจะความสามารถในการบริหารหรือจากพฤติกรรมในการบริหาร คนที่เป็นผู้บริหารระดับสูงขึ้นไปก็จะเริ่มเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิดมากขึ้น รวมทั้งอาจจะเพิ่มแรงกดดันมากขึ้น 3) เพื่อนร่วมงานและพันธมิตรเริ่มเหินห่าง จริงๆ แล้วการที่ลูกน้องมีการพูดคุยหรือนินทาลับหลังเจ้านายนั้นถือเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าเมื่อใดก็ตามเพื่อนร่วมงานและบรรดาพันธมิตรในการทำงานของท่านเริ่มหันหลังให้กับท่านแล้ว เมื่อนั้นก็แสดงให้เห็นแล้วครับว่าเราเริ่มจะมีปัญหาเกิดขึ้นแล้ว
4) ผู้นำที่มีปัญหาในที่ทำงานส่วนใหญ่มักจะเป็นผู้ที่มีปัญหาในเรื่องของความสัมพันธ์ส่วนตัวหรือความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลด้วย แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการบริหารความสัมพันธ์ของบุคคลผู้นั้นทั้งในที่ทำงานและในชีวิตส่วนตัวที่มีปัญหาทั้งคู่ 5) สัญญาณสุดท้ายที่ชัดเจนที่สุดก็คือเมื่อลูกน้องเริ่มหมดความสุข ความสนุกในการทำงานครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าลูกน้องมีความรู้สึกว่าต้องทนทุกข์ในการทำงานกับเรา ถือเป็นสัญญาณอันตรายทีเดียวครับ ที่แสดงให้เห็นถึงความเสื่อมของคนที่เป็นเจ้านาย
ผู้นำที่ดีนั้น จะต้องรู้จักและรู้เวลา โดยรู้ว่าในช่วงเวลาไหนที่ควรจะรุก ควรจะผลักดันหรือขับเคลื่อนลูกน้อง ในขณะเดียวกันก็ควรจะรู้ว่าเวลาไหนที่ควรจะผ่อนหรือถอยหลังออกมา ในขณะเดียวกันผู้นำที่ดีจะต้องสามารถอ่านหรือมองเห็นถึงปฏิกริยาของลูกน้องแต่ละคน เพื่อปรับสไตล์การบริหารให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลในแต่ละสถานการณ์ จะเห็นได้นะครับว่าในปัจจุบันคนที่เป็นผู้นำที่ดีได้นั้นจะต้องมีทักษะที่สำคัญหลายอย่าง แต่ทักษะที่สำคัญที่สุดนั้นหนีไม่พ้นเรื่องของการเป็นผู้ฟังที่ดี ผู้นำนั้นจะต้องคอยกระตุ้น และสนับสนุนให้ลูกน้องได้แสดงความคิดเห็น และรับฟังข้อเสนอแนะจากลูกน้อง ในขณะเดียวกันเมื่อลูกน้องพูดก็ต้องไม่ไปขัดหรือพูดแซงขึ้นมา และไม่อารมณ์เสียขึ้นมาง่ายๆ เมื่อพบว่าลูกน้องทำผิด
มีข้อที่น่าสังเกตคือผู้นำที่ไม่ดีนั้นจะมีส่งผลกระทบทั้งระดับความรุนแรงและระยะเวลานานกว่าผู้นำที่ดี ในต่างประเทศนั้นเขาจะมีคำกล่าวว่า ‘Bad is stronger than good‘ แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่ไม่ดีนั้นมีผลกระทบที่รุนแรงและยาวนานกว่าสิ่งที่ดี มีงานวิจัยที่ศึกษาความรัก และความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล และพบว่าเพื่อให้ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลยืนยาวนั้น จำนวนครั้งของความสัมพันธ์ที่ดีจะต้องมากกว่าจำนวนครั้งของความสัมพันธ์ที่ไม่ดีอย่างน้อย 5:1 เท่า โดยถ้าตัวเลขน้อยกว่านี้เมื่อไรจะพบว่าอัตราความสุขจากการแต่งงานจะลดน้อยลง และอัตราการหย่าร้างจะสูงขึ้น
นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่พบอีกนะครับว่าความสัมพันธ์ที่ไม่ดีระหว่างเจ้านายกับลูกน้องนั้นมีระดับความรุนแรงมากกว่าความสัมพันธ์ที่ดีถึงห้าเท่า แสดงให้เห็นว่าถ้าเจ้านายไม่ดี และก่อให้เกิดความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับลูกน้องแล้ว ผลกระทบจะรุนแรงกว่าการทำดีมาตลอด แสดงว่าผู้นำหรือเจ้านายที่มีพฤติกรรมที่ไม่ดีนั้นจะส่งผลร้ายต่อความสุข ความกระตือรือร้นในการทำงานของคนที่เป็นลูกน้อง และสุดท้ายผลการดำเนินงานขององค์กรก็จะแย่ลง
ท่านผู้อ่านอย่าลืมสำรวจตัวเองดูนะครับว่าตกลงแล้วท่านเป็นเจ้านายประเภทไหน แล้วอย่าลืมว่าเรามักจะมีแนวโน้มท่ีจะประเมินตัวเองสูงกว่าความเป็นจริงนะครับ ถ้าท่านผู้อ่านสนใจอยากจะศึกษาเรื่องนี้เพิ่มเติมก็หาหนังสือชื่อ Good Boss, Bad Boss ของ Robert Sutton มาหาอ่านได้นะครับ