24 March 2010

สัปดาห์นี้ยังคงต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้วนะครับ โดยนำเนื้อหามาจากหนังสือชื่อ The G Quotient ของ Kirk Snyder ที่เขาไปสำรวจผู้บริหารระดับสูงของอเมริกาที่เป็นเกย์ แล้วพยายามสรุป ออกมาเป็นหลักในการบริหารที่เลียนแบบ IQ และ EQ แต่เรียกเสียใหม่ว่า GQ ซึ่งมาจาก G Quotient (ท่านผู้อ่านคงทราบนะครับว่าตัว G มาจากไหน) โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนำเสนอที่มาที่ไปในวิธีการคิดของผู้บริหารกลุ่มนี้ สัปดาห์นี้เรามาดูกันต่อครับว่าหลักการที่สำคัญในการบริหารตามหลักที่เขาเรียกว่า G Quotient Leadership นั้นมีอะไรบ้าง ซึ่งมีทั้งหมดเจ็ดประการ แล้วเมื่ออ่านดูแล้วท่านผู้อ่านจะพบว่าหลักการดังกล่าวล้วนแล้วแต่เป็นหลักการที่ดีๆ ทั้งสิ้นครับ และเป็นหลักการที่จากผลการวิจัยในสหรัฐจะพบในผู้บริหารที่เป็นเกย์ครับ

            หลักการประการแรกเรียกว่า Inclusion ซึ่งในความหมายนั้นหมายถึงการที่ผู้บริหารเปิดโอกาสให้พนักงานได้เข้ามามีส่วนร่วมในเรื่องต่างๆ ได้มากขึ้น แสดงให้เห็นว่าผู้บริหารได้เคารพและให้ความสำคัญต่อคุณค่าของแต่ละคน จากงานวิจัยของผู้เขียนพบว่าในผู้บริหารที่เป็นเกย์นั้นร้อยละ 84 ของพนักงานนั้น จะมีความรู้สึกว่าได้รับการปฏิบัติที่เป็นธรรมจากผู้บริหารของตนเอง พนักงานมีความรู้สึกว่าสำหรับผู้บริหารที่เป็นเกย์นั้น ผู้บริหารของพวกเขาจะเป็นนักจูงใจที่ดี ไม่ใช่พวกที่ชอบบ้าอำนาจและเอาแต่สั่งอย่างเดียว

            หลักประการที่สองคือเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งในปัจจุบันทุกท่านก็ทราบดีอยู่แล้วว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรให้ก้าวไปข้างหน้า ซึ่งจากงานวิจัยก็พบอีกว่าสำหรับผู้บริหารที่เป็นเกย์นั้นดูเหมือนว่าจะให้ความสำคัญและยอมรับต่อความคิดสร้างสรรค์ได้ดีครับ สังเกตจากผลการวิจัยเช่นเดียวกันที่พบว่าร้อยละ 85 ของลูกน้องผู้บริหารที่เป็นเกย์นั้น จะมีความรู้ สึกว่าผู้บริหารของตนนั้น ให้ความสำคัญและยอมรับต่อพนักงานที่มีความคิดที่หลากหลาย

            หลักประการที่สามคือเรื่องของการปรับตัว หรือ Adaptability ซึ่งเป็นความพร้อมและความ สามารถในการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งในสภาวการณ์ปัจจุบันก็เป็นคุณ สมบัติที่สำคัญสำหรับผู้บริหารเนื่องจากองค์กรจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา สำหรับผู้ บริหารที่เป็นเกย์นั้นจะพบว่าจะมีการเตรียมตัวทั้งตัวเองและลูกน้องให้มีการยอมรับ และมีความพร้อมในการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

            หลักประการที่สี่คือเรื่องของความเชื่อมโยงหรือ Connectivity ซึ่งผู้บริหารที่เป็นเกย์จะมี ความสามารถในด้านของการสร้างเครือข่ายหรือความเชื่อมโยงต่างๆ ทั้งภายในองค์กรและกับภายนอกองค์กร ซึ่งดูเหมือนผู้บริหารเหล่านี้จะสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีไปทั่ว ทำให้ผู้บริหารและบรรดาลูกน้องสามารถที่จะติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวต่างๆ ได้อย่างทันท่วงที พนักงานที่ทำงานกับผู้บริหารที่เป็นเกย์จะไม่ค่อยมีความรู้สึกถึงความโดดเดี่ยวในกาทำงาน อีกทั้งลูกน้องที่ทำงานกับผู้บริหารที่เป็นเกย์นั้นจะมีความสุขในการทำงาน ซึ่งจะส่งผลต่อผลการทำงานที่ดีขึ้น อีกทั้งผลการวิจัยชี้ให้เห็นเองครับว่าตัวผู้บริหารที่เป็นเกย์นั้นมีความเชื่อว่าองค์กรของตนเองจะต้องมีการแสวงหาและเรียนรู้จากแหล่งต่างๆ ภายนอกอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะได้มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา

            หลักประการที่ห้าคือการสื่อสารครับ โดยพบว่าในองค์กรที่บริหารโดยผู้บริหารที่เป็นเกย์นั้น จะมีสภาวะแวดล้อมในการทำงานที่เต็มไปด้วยความจริงใจและความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ซึ่งความจริงใจของผู้บริหารดังกล่าว ทำให้ตัวผู้บริหารได้รับความเชื่อถือจากลูกน้อง และสามารถทำให้เกิดการสื่อสารที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลกับลูกน้องของตนเอง นอกจากนี้ยังมีการพบอีกด้วยนะครับว่าผู้บริหารที่เป็นเกย์นั้นจะมีการแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินงานและทิศทางขององค์กรกับลูกน้องมากกว่า ซึ่งก็ส่งผลต่อบรรยากาศหรือสภาวะแวดล้อมในการทำงานที่ดี กว่าร้อยละ 90 ของลูกน้องที่มีผู้บริหารเป็นเกย์ระบุเลยครับว่าทำงานอยู่ในองค์กรที่มีการแบ่งปัน ข้อมูลและความรู้อย่างเปิดกว้าง

            หลักประการที่หกได้แก่เรื่องของการนำสัญชาติญาณหรือ Intuition เข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง ของการตัดสินใจครับ โดยผู้บริหารที่เป็นเกย์นั้นจะให้ความสำคัญและความเชื่อถือต่อเรื่องของการ นำสัญชาติญาณมาเป็นเครื่องมือในการตัดสินใจ ซึ่งก็ส่งผลต่อการจ้างพนักงานที่ดีขึ้นเป็นต้น หลักประการที่เจ็ดคือเรื่องของความร่วมมือหรือ Collaboration ครับ โดยในองค์กรที่มีผู้บริหารที่เป็นเกย์นั้น จะมีบรรยากาศของความร่วมมือระหว่างกันค่อนข้างมาก ทำให้พนักงานทุกคนได้มีความรู้สึกถึงความมีส่วนร่วมและมีความสุขในการทำงาน ซึ่งการที่องค์กรจะมีบรรยากาศของการร่วมมือที่ดีนั้นก็ต้องมีหลักอื่นๆ ก่อนหน้านี้มาก่อน

            จะเห็นได้นะครับว่าผลงานวิจัยของผู้เขียนหนังสือเล่มนี้มีความน่าสนใจทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสนใจที่จะศึกษาถึงคุณลักษณะในการบริหารที่สำคัญของผู้บริหารที่เป็นเกย์และพบว่าผู้บริหารที่เป็นเกย์นั้นจะมีคุณลักษณะหรือความสามารถในการบริหารที่สอดคล้องกับหลักในการบริหารที่ดี และทุกๆ คนและทุกๆ เพศควรที่จะศึกษาและนำไปประยุกต์ใช้ครับ