
4 April 2010
ปัจจุบันคนไทยได้ให้ความสำคัญต่อสีต่างๆ มากขึ้น มีการใช้สีเป็นสัญลักษณ์แสดงความหมายต่างๆ มีการพยายามแบ่งแยกคนไทยออกตามสีต่างๆ อีกทั้งมีการตีค่าและตีจุดมุ่งหมายของคนแต่ละคน ตามสีที่สังกัดหรือสีเสื้อที่ใส่ เดี๋ยวนี้การเลือกใส่เสื้อผ้า นอกจากดูตามสีของวันแล้ว ยังดูอีกด้วยว่าเป็นสีของกลุ่มหรือพรรคพวกตนอีกด้วย วันนี้เราลองมาดูกันนะครับว่าจริงๆ แล้วนอกเหนือจากสีต่างๆ ทางการเมืองที่เราคุ้นเคยกันในปัจจุบัน เราได้คุ้นเคยกับสีต่างๆ ในฐานะของความหมายของสิ่งต่างๆ ว่าอย่างไรบ้าง
เราได้มีการให้ความหมายสำหรับสีต่างๆ กันมาอย่างช้านาน ตั้งแต่สีประจำวันเกิด สีของไฟสัญญาณจราจร สีสำหรับคนอกหัก สีสำหรับสถาบันการศึกษา หน่วยงานต่างๆ สีสำหรับทีมกีฬา หรือ สีสำหรับเพศที่สาม ถ้าในเชิงธุรกิจแล้ว เราก็พยายามให้สีกับผลการดำเนินงานในด้านต่างๆ เช่น ถ้าผลการดำเนินงานบรรลุเป้าหมาย ก็จะให้สีเขียว ถ้าปริ่มๆ หรือ ใกล้เคียงกับค่าเป้าหมายก็จะให้สีเหลือง หรือ ถ้าผลการดำเนินงานไม่เข้าเป้า ก็จะเป็นสีแดง หรือวิธีการคิดที่ Edward De Bono พัฒนาขึ้นมาและเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในชื่อของ Six Thinking Hats โดยการหมวกแต่ละสี จะมีความหมายถึงวิธีการในการคิดที่แตกต่างกันออกไป โดยหมวกสีขาวแสดงถึงข้อมูลและการแสวงหาข้อมูล หมวกสีแดงแสดงถึงการใช้สัญชาติญาณหรือความรู้สึก หมวกสีเหลืองแสดงถึงการคิดเชิงบวก การมองโลกในแง่ดี หมวกสีดำแสดงถึงความระมัดระวัง หมวกสีเขียวแสดงถึงความคิดสร้างสรรค์ หมวกสีฟ้า แสดงถึงการคิดเชิงองค์รวม การก้าวสู่ขั้นตอนต่อไป นอกจากนี้ตามหลักการของห้อง Management Cockpit สีต่างๆ ก็มีความหมายที่แตกต่างกันอีกครับ สีดำแสดงถึงเป้าหมายที่ต้องการบรรลุ ถึงสิ่งที่มีความสำคัญ สีฟ้าแสดงถึงปัจจัยภายใน และสีแดงแสดงถึงปัจจัยภายนอก
จะเห็นได้ว่าในเชิงเปรียบเทียบหรืออุปมาอุปไมยแล้ว เราได้มีการให้ความหมายสำหรับสีแต่ละสีอยู่แล้ว โดยการให้ความหมายดังกล่าวเกิดขึ้นในชีวิตประจำวันเราที่พบเจอมาตั้งแต่เด็ก จนกระทั่งการนำสีไปใช้เป็นตัวแทนของความหมายต่างๆ ในการบริหารองค์กร คราวนี้เราลองมาดูบรรดาผลการศึกษาวิจัยต่างๆ นะครับว่าสีแต่ละสีนั้นมีความหมายอย่างไร และส่งผลกระทบต่อมนุษย์เราอย่างไรบ้าง เนื่องจากไม่สามารถนำเสนอได้ทุกสี ก็ขอเลยขอนำเสนอเฉพาะสีที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบันนะครับ
เริ่มต้นที่สีที่เป็นที่พูดถึงกันมากที่สุดในปัจจุบันอย่างเช่นสีแดงนะครับ จากงานวิจัยพบว่าสีแดงเป็นสีที่แสดงถึงความร้อนแรง เป็นสีที่แสดงถึงความแตกต่างอย่างสุดขั้วในหลายๆ เรื่องตั้งแต่ความรักอันร้อนแรงจนถึงความรุนแรง อีกทั้งยังแสดงถึงทั้งความรักและนรก เนื่องจากสีแดงเป็นสีที่มีความร้อนแรงเป็นพิเศษ ดังนั้นจึงมีการศึกษาที่ระบุว่าสีแดงนั้นส่งผลต่อร่างกายของคนเราครับ ทั้งทำให้อัตราการหายใจและระดับความดันโลหิตสูงขึ้น นอกจากนี้โดยธรรมชาติเรามักจะรับรู้ว่าสีแดงแสดงถึงอันตราย ดูได้จากการใช้สีแดงในไฟสัญญาณจราจรเพื่อเตือนผู้ขับขี่ถึงอันตรายตามสี่แยกต่างๆ นอกจากนี้ยังมีการพบว่าสีแดงเป็นสีที่กระตุ้นให้เกิดความกระตือรือร้น และพลังงาน อีกทั้งเป็นสีที่นำไปสู่การกระทำและความมั่นใจ
คราวนี้มาดูอีกสีที่พูดถึงกันมากในช่วงนี้เช่นเดียวกันครับนั้นคือสีชมพู ซึ่งเป็นสีที่อ่อนกว่าและไม่แสดงถึงความรุนแรงเท่าสีแดง ในขณะที่สีแดงแสดงถึงความรุนแรงและการกระทำ จากงานวิจัยพบว่าสีชมพูมักจะส่งผลต่อความอ่อนโยนและอ่อนแอของคนมากกว่า ซึ่งก็ไม่แปลกใจนะครับว่าทำไมสีชมพูมักจะเกี่ยวข้องกับเด็กผู้หญิง นอกจากนี้สีชมพูยังแสดงความอ่อนเยาว์ ความสนุกสนาน และความตื่นเต้น สีชมพูสามารถทำให้เกิดพลังงานได้มากพอๆ กับสีแดง แต่จะไม่รุนแรงเท่าสีแดง เนื่องจากสีชมพูเกิดขึ้นจากการนำสีแดงมาผสมให้อ่อนลงด้วยสีขาว สรุปว่าสีแดงและสีชมพูนั้นจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกัน เพียงแต่สีแดงจะร้อนแรงกว่า ในขณะที่สีชมพูจะอ่อนโยนกว่า
ลองมาดูสียอดนิยมในอดีตสีหนึ่งครับนั้นคือสีเหลือง สีเหลืองเป็นสีที่แสดงถึงแสงอาทิตย์ และเป็นสีที่แสดงถึงการมองโลกในแง่ดี ความสุข อีกทั้งเป็นสีที่กระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ จากงานวิจัยพบว่าสีเหลืองส่งผลกระทบต่อมนุษย์ โดยเป็นสีที่กระตุ้นจิตใจเรา ช่วยให้มีความทรงจำที่ดี อีกทั้งยังเป็นสีที่สนับสนุนให้เกิดการสื่อสาร อีกสีที่มีคนพยายามที่จะชูขึ้นมาในปัจจุบันคือสีขาว โดยสีขาวเป็นสีที่แสดงถึงความสะอาด ความบริสุทธิ์ ในหลายๆ วัฒนธรรมสีขาวเป็นสีของเจ้าสาว เป็นสีที่ใช้ในงานศพ
ท่านผู้อ่านจะเห็นได้นะครับว่าลำพังสีแต่ละสีก็จะมีความหมายและนัยยะที่แตกต่างกัน อีกทั้งสีแต่ละสีก็ส่งผลต่อมนุษย์เราที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ดีการนำสีแต่ละสีมาใส่ความหมายเพื่อแทนถึงบุคคล กลุ่มบุคคล หรือ อุดมการณ์ใดก็ตาม ล้วนแล้วแต่เป็นเพียงการให้ความหมายของมนุษย์เราเท่านั้นเองนะครับ สีเป็นเพียงสิ่งที่ฉาบอยู่ภายนอก เป็นสัญลักษณ์ร่วมเท่านั้นเอง สุดท้ายแล้วคงต้องดูที่จุดมุ่งหมายและความหมายที่แท้จริงที่ซ่อนอยู่ภายใต้สีแต่ละสี