
3 September 2009
ความสำคัญของเทคโนโลยีในปัจจุบันคงจะไม่ต้องการ การสนับสนุนหรืออธิบายเพิ่มเติมแล้วนะครับ ท่านผู้อ่านมองไปรอบๆ ตัวเราแล้วลองดูซิครับว่ามีสิ่งใดที่ไม่ได้มาจากเทคโนโลยี แม้กระทั่งหนังสือพิมพ์ที่ท่านผู้อ่านกำลังอ่านอยู่ก็ต้องอาศัยเทคโนโลยีในการทำให้ได้มาซึ่งหนังสือพิมพ์หนึ่งฉบับ จนเราอาจจะสามารถกล่าวได้ไหมครับว่า มนุษย์ในปัจจุบัน ไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้โดยปราศจากเทคโนโลยี อย่างไรก็ดีถึงแม้เทคโนโลยีจะเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นและความสำคัญต่อการดำรงชีวิต และการเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินงานขององค์กรธุรกิจ แต่เราก็ยังไม่สามารถเข้าใจกันอย่างลึกซึ้งหรือเหมาะสมถึงแนวทางและวิธีการในการบริหารเทคโนโลยี
อย่าว่าแต่การบริหารเทคโนโลยีเลยแม้กระทั่งคำนิยามหรือคำจำกัดความของเทคโนโลยีก็มีความแตกต่างกันพอสมควร สำหรับบางท่านเทคโนโลยีคือผลิตผลของวิทยาศาสตร์ที่นำมาใช้ประโยชน์ในการเชิงพาณิชย์ ในขณะเดียวกันบางท่านเวลานึกถึงเทคโนโลยีก็มักจะนึกถึงแต่สิ่งที่มีรูปธรรมที่ชัดเจน หรือ สมัยผมเรียนหนังสืออาจารย์ที่สอนวิชานี้ก็จะบอกว่าเทคโนโลยีคือสิ่งที่ช่วยให้เราสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น ดังนั้นแว่นตาที่เราสวมใส่ก็เป็นเทคโนโลยี ในขณะเดียวกันผมก็ไปเจออีกนิยามหนึ่งที่น่าสนใจครับ โดยเขาบอกว่าเทคโนโลยีมีองค์ประกอบที่สำคัญสี่ส่วนได้แก่
1.เทคโนโลยีที่แฝงอยู่ในรูปของวัตถุ หรือ Technoware ซึ่งได้แก่ เครื่องจักร เครื่องมือ หรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการทำงาน Technoware จะช่วยเพิ่มอำนาจและความสามารถในการควบคุมการทำงานต่างๆ ของมนุษย์
2.เทคโนโลยีที่แฝงอยู่ในรูปของบุคคล หรือ Humanware ซึ่งได้แก่ ทักษะ ความสามารถ ความคิดสร้างสรรค์ ความชำนาญ ของมนุษย์ในการใช้ประโยชน์จาก Technoware
3.เทคโนโลยีที่แฝงอยู่ในรูปของข้อมูล หรือ Inforware ซึ่งได้แก่ design parameters specifications พิมพ์เขียว คู่มือในการปฎิบัติและการดูแลรักษา หรือ ความรู้ที่สะสมไว้ สำหรับการใช้ประโยชน์จาก Technoware, Humanware, Orgaware รวมทั้งทำให้เกิดการเรียนรู้อย่างรวดเร็วและลดการใช้ทรัพยากรลง
4.เทคโนโลยีที่แฝงอยู่ในรูปขององค์กร หรือ Orgaware ซึ่งได้แก่ โครงสร้าง หลักการ วิธีการ หรือแนวทางต่างๆ ที่จะนำไปสู่การใช้ Technoware อย่างมีประสิทธิภาพจาก Humanware รวมทั้งการประสานงานระหว่างกิจกรรมต่างๆ ภายในองค์กรให้ดำเนินไปเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้
ดังนั้นท่านผู้อ่านจะเห็นได้นะครับว่าแม้ในทางวิชาการความหมายของเทคโนโลยีก็มีความแตกต่างกันพอสมควร อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะใช้นิยามหรือความหมายใด แต่เราก็ยอมรับถึงความสำคัญของเทคโนโลยี ดังนั้นเราก็ควรจะทำความเข้าใจต่อเจ้าเทคโนโลยีด้วย หลักการพื้นฐานที่สำคัญประการหนึ่งของเทคโนโลยีคือ กราฟรูปตัวเอส หรือ S-Curve โดยเป็นกราฟที่ใช้อธิบายถึงการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ถ้าท่านผู้อ่านนึกถึงรูปตัว S ในภาษาอังกฤษแล้วนำมาเปรียบเทียบกับพัฒนาการของเทคโนโลยี เราจะพบว่าระยะแรกการพัฒนาเทคโนโลยี จะเปลี่ยนแปลงไปตามส่วนฐานหรือส่วนล่างสุดของรูปตัว S ซึ่งแสดงถึงการพัฒนาทางเทคโนโลยีที่เป็นไปอย่างเชื่องช้า เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีชนิดใหม่ ต้องใช้ความพยายามในการพัฒนาเป็นอย่างมาก เมื่อพ้นช่วงระยะเวลานี้ไปแล้วการพัฒนาของเทคโนโลยีจะเป็นไปอย่างรวดเร็วเนื่องจากพื้นฐานของเทคโนโลยีนั้น ได้รับการพัฒนามาอย่างดีแล้ว ในช่วงระยะนี้คือช่วงกลางในรูปตัว S ที่มีการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และเมื่อเทคโนโลยีนั้นๆมีการพัฒนาไปจนถึงจุดสูงสุดหรือจุดอิ่มตัวแล้วหรือส่วนบนสุดของรูปตัว S การพัฒนาของเทคโนโลยีนับจากช่วงนั้นจะเป็นไปอย่างเชื่องช้าและค่อนข้างลำบาก
ผู้บริหารส่วนใหญ่มักมีความเข้าใจผิดว่าเมื่อเทคโนโลยีมาถึงจุดสูงสุดแล้วจะสามารถพัฒนาได้ต่อไป โดยมีการใช้ความพยายามและเงินลงทุนอย่างมากในช่วงนี้ ซึ่งจริงๆแล้ว จะเป็นการยากที่พัฒนาให้ก้าวหน้าต่อไป ท่านผู้อ่านลองนึกถึงเทคโนโลยีหลายๆ ประการที่ขึ้นถึงจุดสูงสุดของตัว S แล้วจะไม่พัฒนาต่อหรือพัฒนาอย่างเชื่องช้า เช่น เครื่องเล่นแผ่นเสียง เครื่องเล่นเทป เครื่องเล่นซีดี ที่พอถึงจุดสูงสุดของกราฟตัว S นั้นแทนที่เทคโนโลยีดังกล่าวจะพัฒนาต่อไป ก็จะมีเทคโนโลยีใหม่มาทดแทน ดังนั้นสิ่งที่ผู้บริหารควรจะเสาะแสวงหาคือการหาเทคโนโลยีชนิดใหม่ซึ่งสามารถใช้ทดแทนเทคโนโลยีแบบเดิม โดยยังคงสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ดังเดิม
สิ่งที่ผู้บริหารควรจะพิจารณาก็คือเทคโนโลยีที่ท่านใช้หรือพึ่งพาอยู่ในปัจจุบันนั้นอยู่ ณ จุดใดของกราฟตัว S? ถ้าอยู่ช่วงต้นก็ต้องมีการลงทุนและพัฒนากันมากพอสมควร ถ้าอยู่ช่วงกลางก็จะพบว่าเทคโนโลยีนั้นจะมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว แต่ถ้าอยู่ช่วงบนแล้วแสดงว่าเทคโนโลยีดังกล่าวเริ่มถึงจุดอิ่มตัวแล้ว อาจจะเริ่มหาเทคโนโลยีใหม่เข้ามาทดแทนครับ