24 September 2009

ดูเหมือนว่าในปัจจุบันถ้าใครที่ไม่รู้จักหรือไม่ได้อยู่บน Facebook ก็อาจจะเจอคำถามว่า “ไปอยู่ไหนมา” หรือ กลายเป็นคนที่ไม่ได้สังสรรค์หรือชอบสมาคมกับผู้อื่น หรือ อาจจะกลายเป็นคนที่ทำงานยุ่งอยู่ตลอดเวลาจนกระทั่งไม่มีเวลาสำหรับการผ่อนคลาย หรือ การพบปะและเจอเพื่อนฝูงผ่านทางเครือข่ายทางสังคมแห่งนี้ คงไม่มีใครสามารถตอบได้ว่าปรากฎการณ์ของ Facebook นั้นจะอยู่อีกนานแค่ไหน หรือ จะเหมือนกับของเล่นไฮเทคต่างๆ ที่มาอย่างรวดเร็ว สร้างกระแสความตื่นตัวในระยะเวลาอันสั้น จากนั้นก็จางหายไปอย่างรวดเร็ว ก็ยังเป็นสิ่งที่ต้องติดตามต่อไป แต่ที่แน่ๆ ก็คือจากการสำรวจล่าสุดของผู้ที่ใช้บริการอินเตอร์เน็ตนั้นในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาคนอังกฤษจะใช้เวลาอยู่บน Facebook มากกว่าบนหน้า Google ถึงสามเท่า

            Nielsen ได้สำรวจพบว่าทั้งจำนวนผู้ใช้ และเวลาที่ใช้บน Facebook นั้นมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาบุคคลหนึ่งจะใช้เวลาอยู่บนหน้า Facebook ประมาณ 4.39 ชั่วโมง แต่พอมาเดือนสิงหาคมนั้นจะใช้เวลาอยู่บน Facebook ประมาณ 5.46 ชั่วโมง และเมื่อเทียบกับผู้บริการบนเว็บเจ้าอื่นๆ แล้ว ณ ปัจจุบันต้องถือว่าผู้ที่เล่น Facebook นั้นจะใช้เวลามากที่สุดอยู่บนหน้า Facebook มากกว่าเว็บดังเจ้าอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น Google, Yahoo, MSN, Youtube แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ Facebook ในการก่อให้เกิดรายได้ในอนาคต

            ไม่ว่าอนาคตของ Facebook จะไปในทิศทางไหน แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือการถือกำเนิดและการเติบโตของ Facebook ที่น่าจะเป็นอีกตำนานหนึ่งของอุตสาหกรรมอินเตอร์เน็ต โดยตำนานของ Facebook นั้นก็จะมีความคล้ายกับตำนานของธุรกิจเทคโนโลยีชั้นสูงและอินเตอร์เน็ตอื่นๆ โดยผู้ถือกำเนิด Facebook ที่ชื่อ Mark Zuckerberg นั้น ก็เป็นเหมือนคนอื่นๆ ที่เป็นคนเก่งที่ได้เข้าเรียนในระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยชั้นนำของสหรัฐ (Mark เรียนที่ Harvard) เช่นเดียวกับอีกหลายๆ ตำนานครับ) และจากการประดิษฐ์คิดค้นของเขาที่จะสร้างเครือข่ายสังคมออนไลน์ สำหรับการติดต่อภายในมหาวิทยาลัยของเขา ก็ได้ขยายจากมหาวิทยาลัย Harvard ไปสู่มหาวิทยาลัยชั้นนำอื่นๆ อีกทั่วสหรัฐ และหลังจากนั้น Facebook ก็ได้ขยายไปสู่ Facebook ที่ทุกท่านรู้จักกันในปัจจุบัน ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 3 ปี

            ปัจจุบันมีคนลงทะเบียนอยู่ใน Facebook ประมาณ 19 ล้านคนทั่วโลก และจากสถิติพบว่ากว่าครึ่งหนึ่งของผู้ที่ลงทะเบียนที่เข้า Facebook อย่างน้อยวันละครั้ง จากข้อมูลของ comScore Media Metrix ซึ่งคอยติดตามความเคลื่อนไหวของเว็บต่างๆ พบว่าในปัจจุบัน Facebook เป็นเว็บที่มีการจราจรหรือมีการเคลื่อนไหวเข้าเยี่ยมชมมากที่สุดเป็นอันดับหกของสหรัฐ หรือ ถ้าพูดอีกนัยหนึ่งคือร้อยละ 1 ของเวลาที่คนใช้บนอินเตอร์เน็ตในสหรัฐนั้น จะอยู่บน Facebook นอกจากนี้อีกหน่วยงานหนึ่งที่ชื่อ ComScore ยังสำรวจและพบว่าปัจจุบัน Facebook เป็นเว็บที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนรูปอันดับหนึ่งทั่วโลก โดยมีรูปประมาณ 6 ล้านรูปที่ถูกนำขึ้นแสดงไว้บน Facebook ต่อวัน และนักวิเคราะห์จาก eMarketer ยังระบุด้วยว่า Facebook นั้นมีแนวโน้มที่จะสามารถหารายได้เข้ามาปีละ 100 ล้านเหรียญสหรัฐในปีนี้

            สำหรับมูลค่าของ Facebook ในอนาคตนั้นก็มีข่าวลือขึ้นมามากมายครับ เช่น Yahoo เว็บท่าชื่อดังเคยสำรวจมูลค่าของ Facebook และประมาณว่าในปี 2010 หรือปีหน้า Facebook จะมีสมาชิกหรือผู้ลงทะเบียนจำนวน 48 ล้านคนทั่วโลก และมีรายได้ประมาณ 969 ล้านเหรียญสหรัฐ เคยมีข่าวว่า Yahoo เคยทำเรื่องขอเสนอซื้อ Facebook ด้วยมูลค่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ แต่ Facebook ก็ได้ปฏิเสธไป ถึงแม้ Facebook จะประสบความสำเร็จและเป็นที่นิยมไปทั่วโลก แต่ผู้คิดค้น ก่อตั้ง รวมทั้งยังถือว่าเป็นเจ้าของ Facebook อย่าง Mark ก็ยังทำตัวเหมือนสมัยเป็นนักศึกษาที่ Harvard (Mark ออกจาก Harvard เพื่อมาดูแลธุรกิจอย่างเต็มตัว เหมือนกับอดีตตำนานท่านอื่นๆ) นั้นคือเช่าอพาร์ตเม้นต์อยู่ และยังเดินหรือขี่จักรยานไปทำงาน

            ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ Facebook จะยังคงสามารถครองตัวเป็นโสดหรืออิสระได้อีกหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ Mark แต่ก็มีข้อสังเกตว่าเมื่อธุรกิจที่เป้นพวก Web 2.0 เติบโตขึ้นถึงระดับหนึ่งแล้ว ก็มักจะขายตนเองให้กับยักษ์ใหญ่อื่นๆ เช่นกรณีของ MySpace ที่ NewsCorp ซื้อไปในราคา $580 ล้าน หรือ Youtube ที่ทาง Google ซื้อไปด้วยราคา $1,500 ล้าน ท่านผู้อ่านลองพิจารณาดูนะครับว่าถ้าท่านผู้อ่านเป็น Mark ท่านจะตัดสินใจอย่างไร ยังคงดูแลและทะนุถนอมบริษัทของตนเองต่อไปเรื่อยๆ หรือ จะขายบริษัทด้วยราคาที่สูง และไปหาความท้าทายใหม่ๆ?