17 December 2008

สองสัปดาห์ที่ผ่านมาผมได้นำเสนอเรื่องของปัญหาและข้อจำกัดของการเรียนการสอนในหลักสูตร MBA ในปัจจุบัน (โดยมุ่งเน้นสถาบันการศึกษาในอเมริกา) ซึ่งเราจะพบว่าในปัจจุบัน MBA กำลังอยู่ในช่วงของการปรับเปลี่ยน โดยทาง Harvard Business School เขาได้ทำการวิจัยเพื่อศึกษาถึงแนวทางในการปรับเปลี่ยนหลักสูตร MBA ของเขา ซึ่งผมคิดว่าข้อคิดที่เราได้จาก Harvard นั้น น่าจะเป็นข้อคิดที่น่าสนใจสำหรับการปรับหลักสูตร MBA ในบ้านเราครับ

            สำหรับสัปดาห์นี้เรามาดูกันนะครับว่าทาง Harvard เขามีแนวทางในการปรับปรุงหลักสูตร ของเขาอย่างไร ซึ่งในเบื้องต้นนั้นทาง Harvard เขามองว่าปัญหาที่หลักสูตร MBA ของ Harvard กำลังเผชิญนั้น ไม่ใช่ปัญหาในเรื่องของการเรียนการสอน MBA แต่เป็นความท้าทายที่เกิดขึ้นเนื่องจากบริบทและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนไป เนื่องจากพอบริบททางการแข่งขันที่เปลี่ยนไป ย่อมทำให้คุณลักษณะของ MBA เปลี่ยนไปด้วย และส่งผลทำให้วิธีการจัดการเรียนการ สอนเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน

            ทาง Harvard มองว่าสภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจนั้น การเปลี่ยนแปลงที่เห็นผล กระทบที่เห็นได้ชัดเจนคือ ความเป็นสากลที่มากขึ้น การพึ่งพาเทคโนโลยีที่มากขึ้น และลำดับและสายการบังคับบัญชาก็ลดน้อยลง ในขณะเดียวกันอุตสาหกรรมที่เป็นอุตสาหกรรมองค์ความรู้ (Knowledge-Based Industries) ก็ทวีความสำคัญมากขึ้นทุกขณะ และสุดท้ายการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ก็จะเป็นไปอย่างรวดเร็วและเร่งเร้าขึ้น ดังนั้นโจทย์ที่บรรดาคณาจารย์ของ Harvard ได้มานั่งคิดแล้วก็เห็นพ้องต้องกันว่าจะต้องเสริมในหลักสูตรการเรียนการสอนในระบบปกติด้วยเรื่องหลักๆ สามเรื่องครับ คือเรื่องของโลกาภิวัตร เรื่องของการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ (Experience Learning) และเรื่องของการพัฒนาผู้นำ โดยบรรดาคณาจารย์ของ Harvard เชื่อว่าสามเรื่องนี้จะเป็นสิ่งที่สนับสนุน ให้ผู้เรียนได้เตรียมความพร้อมสำหรับการเผชิญสภาพธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป

            โจทย์ต่อมาก็คือในประเด็นสามประเด็นที่จะมุ่งเน้นนั้น ทาง Harvard เขาจะมีวิธีการอย่าง ไรในการผสมผสานเข้ากับระบบการเรียนการสอนที่เป็นอยู่ในปัจจุบันหรือจะปรับเปลี่ยนรูปแบบการเรียนการสอนอย่างไร ให้เข้ากับแนวทางใหม่? ในเรื่องของ Globalization นั้น ทาง Harvard เขาได้มีการเตรียมพร้อมเพื่อรองรับเรื่องนี้มาพอสมควร โดยปัจจุบันได้มีการเปิดศูนย์วิจัยขึ้นมาหกแห่ง เพื่อเป็นกลไกในการสนับสนุนและกระตุ้นให้คณาจารย์ของ Harvard ได้ทำวิจัยในเอเชีย ยุโรป และละตินอเมริกา โดยผลผลิตที่จับต้องได้ชัดเจนก็คือกรณีศึกษาเกี่ยวกับบริษัทในภูมิภาคต่างๆ ที่ไม่ใช่อเมริกากว่า 130 กรณีศึกษาต่อปี ประเด็นที่น่าสนใจอีกประการคือทาง Harvard เขาไม่ยึดติด กับความเป็นภูมิภาคใดภูมิภาคหนึ่ง แต่ต้องการให้ผู้เรียนมี Global Perspective ที่สามารถทำให้ผู้เรียนสามารถทำงานในสภาวะ Global ได้ในทุกประเทศเมื่อเรียนจบ สิ่งที่น่าสนใจคือทาง Harvard เขาให้วิชาต่างๆ เพิ่มมุมองในเรื่อง Globalization มากขึ้น แต่ไม่เน้นสอนการจัดการธุรกิจระหว่าง ประเทศเป็นภูมิภาคหรือเป็นประเทศเจาะจงลงไป

            ส่วนเรื่องของการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์นั้น ทาง Harvard เขาเน้นกิจกรรมนอกหลักสูตร ที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เดินทางไปเปิดหูเปิดตายังประเทศต่างๆ ดังนั้นเรื่องการพานิสิตเดินทางไปต่างประเทศ จึงถือเป็นสิ่งที่มุ่งเน้นครับเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ผ่านทางประสบการณ์จริง ไม่ใช่แค่ฟังผู้สอนบรรยายอย่างเดียว

            สำหรับเรื่องของภาวะผู้นำนั้นก็ได้เริ่มต้นจากการเปิดวิชาใหม่ที่สอนให้ MBA ในชั้นปีที่ หนึ่งชื่อ Leadership and Accountability ซึ่งเป็นวิชาที่ผสมผสานระหว่างคณาจารย์จากหลายๆ สาขา ทั้งจริยธรรม กฎหมาย การเงิน บัญชี พฤติกรรมองค์การ เพื่อให้ผู้เรียนได้คิด วิเคราะห์ และตระหนักถึงปัญหาต่างๆ ที่สำคัญทางธุรกิจ และใช้ความรู้จากหลายๆ ด้าน เพื่อหาทางตอบสนองต่อความต้องการของผู้มีส่วนเกี่ยวกับองค์กร

            นอกจากนี้เพื่อพัฒนา Soft-Skills ของผู้เรียนซึ่งกลายเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการทำงานใน อนาคต ทาง Harvard ก็ตระหนักว่า Soft-Skills ไม่ใช่สิ่งที่สามารถสอนได้ด้วยห้องเรียนขนาดใหญ่ แต่จะต้องเป็นชั้นเรียนขนาดเล็กและตัวคณาจารย์เองก็ต้องลงมาเกี่ยวข้องและดูแล อย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น ซึ่งก็จะกลายเป็นปัญหากับตัวคณาจารย์อีก ว่าตัวอาจารย์เองจะมีเวลาหรือไม่? และตัวอาจารย์เองจะมีความสามารถในการสอน Soft-Skills หรือไม่? สุดท้ายทาง Harvard เขาก็เริ่มยืดหยุ่นครับ คือไม่จำเป็นต้องใช้ตัวอาจารย์ประจำเป็นผู้สอน Soft-Skills ก็ได้ครับ แต่ศิษย์เก่า ผู้บริหาร วิทยากรจากภายนอก ก็สามารถเข้ามาช่วยได้

            การเปลี่ยนแปลงต่างๆ เหล่านี้ของ Harvard เป็นสิ่งที่น่าติดตามนะครับ และกระบวนการ ในการหาความคิดเห็น การมีส่วนร่วมก็เป็นสิ่งที่น่าศึกษาเช่นเดียวกันครับ ปัจจุบันการปรับเปลี่ยน หลักสูตรของทาง Harvard ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการนะครับ ซึ่งเราก็คงต้องดูกันต่อไปนะครับว่า จะออกมาในรูปแบบไหน แต่สิ่งหนึ่งที่มั่นใจได้ก็คือทาง Harvard จะยังคงยึดมั่นและมุ่งเน้นในเรื่อง ของการสอนด้วยกรณีศึกษาต่อไปแน่ๆ ครับ