25 February 2009

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วผมได้นำเสนอถึงพัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงในกลยุทธ์ของยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง General Electric หรือ GE โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ภายหลังจากที่ Jeff Immelt เข้ารับตำแหน่ง CEO ต่อจาก Jack Welch ซึ่งในช่วงหลัง GE ได้เน้นกลยุทธ์นวัตกรรม และการเติบโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเติบโตจากภายใน ดังนั้นในสัปดาห์นี้เรามาศึกษากันต่อนะ ครับว่าเพื่อให้กลยุทธ์นวัตกรรมและการเติบโตของ GE ประสบความสำเร็จนั้น ทาง GE มีกลไก หรือแนวทางที่น่าสนใจอย่างไรบ้าง

            อย่างแรกเลยคือการทำให้องค์กร ผู้บริหาร และบุคลากรในระดับต่างๆ ได้ให้ความสนใจกับทางด้านการตลาดและลูกค้ามากขึ้น เนื่องจาก Immelt เองมองว่าเพื่อให้ GE สามารถเติบโตได้ในอนาคต จุดมุ่งเน้นของ GE จะต้องเปลี่ยนจากการมุ่งเน้นเรื่องผลิตภาพและประสิทธิภาพเหมือนในอดีต มาเป็นเรื่องของด้านการตลาด ลูกค้า และการบริการด้วย โดยหลังจากรับตำแหน่งได้ไม่นาน ผู้บริหารระดับสูงคนแรกๆ ที่ Immelt แต่งตั้งคือ Chief Marketing Officer หรือ CMO ซึ่งเป็น CMO คนแรกในประวัติศาสตร์ของ GE นอกจากนี้ยังเป็นนโยบายลงไปเลยว่าในทุกหน่วยธุรกิจของ GE ขอให้แต่งตั้งผู้บริหารระดับ VP ทางด้านการตลาด ซึ่งอาจจะมาจากภายในหรือหาจากภาย นอกก็ได้

            หลังจากนั้นในปี 2002 ทาง Immelt ก็ได้ท้าทายบรรดาผู้บริหารของแต่ละหน่วยธุรกิจให้ช่วยกันแสวงหา โอกาสในการเติบโตของ GE โดยเป็นธุรกิจที่จะสามารถทำให้เกิดกำไรให้ได้อย่างน้อยหนึ่งพันล้านบาทภายในไม่กี่ปีข้างหน้า ซึ่งทาง GE ก็ระบุโอกาสในการเติบโตได้หกธุรกิจ

            นอกเหนือจากการเติบโตทางธุรกิจแล้ว ทาง GE ก็ได้ให้ความสำคัญกับคน โดยพยายามให้เรื่องของนวัตกรรมและการเติบโตเป็นดีเอ็นเอของคนใน GE เนื่องจาก Immelt มองว่าในขณะนั้น ผู้บริหารของ GE ไม่ได้มีทักษะหรือความสามารถที่จะสามารถตอบสนองต่อสภาวะแวดล้อมที่เน้นการเติบโต ดังนั้น Immelt จึงกำหนดไปอย่างชัดเจนเลยว่าผู้นำยุคใหม่ของ GE ต้องเรียกว่าเป็น Growth Leaders ซึ่ง Immelt มองว่า Growth Leaders เหล่านี้ จะต้องมีความรู้ลึกในทางการตลาด (Market Depth) ต้องให้ความสำคัญกับลูกค้า (Customer Touch) และมีความรู้ในด้านเทคนิค (Technical Understanding)

            ที่สำคัญทาง GE ได้ยังได้ระบุไว้อย่างชัดเจนอีกนะครับว่าสมรรถนะหรือคุณลักษณะที่พึงประสงค์หรือ Competencies ที่ ผู้นำยุคใหม่เพื่อการเติบโตของ GE ควรจะมี โดย GE ได้กำหนดคุณลักษณะที่สำคัญของผู้นำยุคใหม่ไว้ห้าประการทั้งหมดได้แก่ External Focus ที่มุ่งเน้นและให้ความสำคัญกับปัจจัยภายนอกองค์กร Think Clearly หรือความสามารถในการคิดและแปลงกลยุทธ์ไปสู่แผนปฏิบัติการที่ชัดเจน สามารถตัดสินใจและสื่อสารถึงสิ่งที่มีความสำคัญ Imagination and Courage ที่มีความคิดสร้างสรรค์และกล้าที่จะเสี่ยง Inclusiveness and Connection with People ซึ่งเป็นความสามารถในการกระตุ้นบุคลากรในหน่วยงานให้ทำงานและมุ่งมั่น การสร้างความภักดีในหมู่บุคลากร และสุดท้าย Expertise หรือการมีความรู้ ความเชี่ยวชาญในงานที่ตนเองทำ

            คุณลักษณะต่างๆ ข้างต้นนั้นได้กลายเป็นต้นแบบสำหรับ GE ในการพัฒนาบุคลากร รวมทั้งยังเป็นกลไกสำคัญในการประเมินผลบุคลากร โดยทาง Immelt เองก็ได้ให้ความสำคัญกับ การพัฒนา Growth Leader อย่างมาก เมื่อมีผู้ถามเกี่ยวกับการใช้เวลาของเขานั้น Immelt ตอบไว้ อย่างชัดเจนเลยครับว่า ในฐานะ CEO ของ GE นั้นเขาใช้เวลาร้อยละ 20 กับลูกค้า ร้อยละ 30 เกี่ยวกับบุคลากร ไม่ว่าจะเป็นการอบรม การพัฒนา ร้อยละ 10 เกี่ยวกับการกำกับดูแลบริษัท ไม่ว่าจะเกี่ยวกับผู้ถือหุ้นหรือกรรมการบริษัท และที่เหลือร้อยละ 40 เกี่ยวข้องกับการประชุมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการประชุมเพื่อทบทวนผลการดำเนินงานตามกลยุทธ์ หรือ การดำเนินงานทั่วๆ ไป

            เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์การเติบโตของบริษัท GE ก็ได้มีการปรับโครงสร้างองค์กร โดยการลดจำนวนหน่วยธุรกิจจาก 11 แห่งเหลือเพียงแค่หกหน่วย ซึ่งการลดจำนวนหน่วยธุรกิจนั้นทั้งเพื่อการประหยัดต้นทุน ลดความซ้ำซ้อน ยังเป็นการปรับโครงสร้างองค์กรให้สามารถตอบ สนองต่อความต้องการของลูกค้าและตลาดได้ดีกว่า ส่วนตัวผู้บริหารสูงสุดของแต่ละหน่วยธุรกิจนั้นยังถูกบังคับให้ใช้เวลามากขึ้นกับการพัฒนา อบรม และสนับสนุนผู้บริหารระดับรองลงมา

            ท่านผู้อ่านพอจะเห็นภาพนะครับว่าสำหรับ GE นั้นเมื่อกำหนดกลยุทธ์เรื่องของนวัตกรรม และการเติบโตไว้แล้ว GE เองได้พัฒนาองค์กรในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการกำหนดคุณสมบัติของบุคลากร การพัฒนาผู้บริหาร การปรับโครงสร้างองค์กร การให้ความสำคัญกับทางด้านการตลาด ฯลฯ ซึ่งการพัฒนาองค์กรในด้านต่างๆ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่เกื้อหนุนและส่งเสริมต่อกลยุทธ์เรื่องของการเติบโตและนวัตกรรมที่บริษัทได้กำหนดขึ้น