26 July 2009

ผมเองมักจะได้รับยินเสียงบ่นและได้รับคำถามจากผู้บริหารและเพื่อนๆ ที่ทำงานในภาคเอกชนหลายคนเกี่ยวกับเด็กรุ่นใหม่ที่จบออกไปทำงานในช่วงที่ผ่านมา โดยเสียงส่วนใหญ่จะออกมาในเชิงของการบ่นและแสดงถึงความไม่เข้าใจคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของทัศนคติ พฤติกรรม และ ความทุ่มเทในการทำงาน ที่ดูเหมือนจะแตกต่างจากคนรุ่นเก่าและคนรุ่นที่กำลังเป็นเจ้านายในระดับต่างๆ ที่อายุอยู่ระหว่างสามสิบปลายๆ ขึ้นไป ผมเองก็มักจะตอบไปว่าพฤติกรรมที่บ่นมานั้น ไม่ถือว่าผิดปกติ และไม่ได้เป็นเฉพาะกับคนรุ่นใหม่ที่จบมาจากสถาบันใดสถาบันหนึ่งโดยเฉพาะหรอกครับ แต่เป็นที่คนรุ่นใหม่ที่เราเรียกกันว่าเป็นคน Gen Y หรือ Generation Y ซึ่งดูเหมือนว่าจะมีพฤติกรรมที่เหมือนๆ กันทั่งรุ่นครับ ดังนั้นถ้าเราหนีคนรุ่นนี้ไม่พ้น ก็ต้องทำความเข้าใจเขาครับ

            ในวารสาร Harvard Business Review ฉบับเดือนนี้เขามีการศึกษาพฤติกรรมของคน Gen Y ในสหรัฐ และได้สรุปเป็นลักษณะของคนใน Gen Y ไว้อย่างน่าสนใจ ดังนั้นถ้าท่านผู้อ่านอยากจะทำความเข้า ใจในพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ในที่ทำงาน ก็ต้องลองทำความเข้าใจในคนรุ่นนี้กันดูนะครับ

            คน Gen Y นั้นจะเป็นพวกที่มีความทะเยอทะยาน มีความมุ่งมั่น คนเหล่านี้พร้อมและยินดีที่จะทำ งานที่หนักขึ้น และมากขึ้น เพื่อความสำเร็จทั้งของตนเองและขององค์กรที่ตนเองอยู่ ดังนั้นเสียงบ่นทั้งหลายที่มักจะบอกว่าคนรุ่นนี้ไม่ค่อยสู้งานหนักนั้น จริงๆ แล้วไม่ใช่ทีเดียวครับ ขึ้นอยู่กับว่าองค์กรและลักษณะงานที่ทำนั้นตรงกับสิ่งที่พวกเขาต้องการ และเห็นถึงคุณค่าหรือเปล่า ถ้าเป็นงานที่เขาไม่เห็นความสำคัญ หรือ ไม่ตรงกับที่พวกเขาให้ความสำคัญนั้น คนรุ่นนี้แทบจะไม่ยื่นมือเข้ามาทำหรือช่วยเหลือเลย แต่ถ้าเป็นงานที่พวกเขาชอบ การทำงานหนักกว่าปกตินั้นเป็นสิ่งที่คนเหล่านี้ยินดีที่จะกระทำ

            อีกประเด็นหนึ่งที่มักจะได้รับเสียงบ่นคือความภักดีต่อองค์กร เนื่องจากคนรุ่นนี้จะเปลี่ยนงานบ่อย จนคนรุ่นเก่ามองว่าคน Gen Y นั้นเป็นกลุ่มที่ไม่ภักดีต่อองค์กร แต่สิ่งที่ค้นพบนั้น ไม่ใช่ว่าคนเหล่านี้จะขาด ความภักดีหรอกนะครับ เพียงแต่คนใน Gen Y นั้นเป็นกลุ่มคนที่ต้องการเรียนรู้ในประสบการณ์ที่หลาก หลาย ต้องการประสบการณ์ และการเรียนรู้ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ดังนั้นถ้าที่ทำงานไม่สามารถทำให้คนเหล่า นี้ได้เรียนรู้ในประสบการณ์ใหม่ๆ และหลากหลาย อย่างต่อเนื่อง คนในรุ่นนี้ก็คงไม่หนีไปไหนง่ายๆ หรอกครับ

            ข้อดีประการหนึ่งของคนรุ่นนี้คือเป็นพวกที่สามารถเรียนรู้ และทำงานได้ภายใต้ความหลากหลายทางวัฒนธรรม คนกลุ่มนี้พร้อมที่จะทำงานในวัฒนธรรมที่มีความหลากหลาย การทำงานกับชาวต่างประเทศ ทั้งในประเทศ หรือ ไปทำงานต่างประเทศนั้น เป็นเรื่องปกติสำหรับคนในยุค Gen Y นอกจากนี้การทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงานที่ต่างเชื้อชาติ ศาสนา ก็เป็นสิ่งที่เป็นปกติสำหรับคนรุ่นนี้

            นอกจากนี้คน Gen Y ยังให้ความสำคัญกับเรื่องของการดูแล รักษาสิ่งแวดล้อม เรียกได้ว่ากระแส ความตื่นตัวในเรื่องของการลดภาวะโลกร้อน การดูแลสีเขียวบนโลก เป็นสิ่งที่อยู่ในสายเลือดของคนรุ่นนี้ ดังนั้นคนใน Gen Y ก็ต้องการให้องค์กรหรือบริษัทที่ตนเองทำงานให้ความสำคัญต่อการดูแลรักษาธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และโลกใบนี้เช่นเดียวกับพวกเขา กว่าหนึ่งในสี่ของคนรุ่นนี้ที่ได้มีการทำการศึกษา ระบุว่าการที่องค์กรตนเองให้ความสำคัญกับสภาวะแวดล้อมการทำงานที่เน้นและใส่ใจในสิ่งแวดล้อม เป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก ดังนั้นถ้าบริษัทของท่านจ้างคนใน Gen Y เป็นจำนวนมากนั้น ต้องอย่าลืมให้ความสน ใจ และใส่ใจต่อการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และโลกใบนี้ด้วยนะครับ

            ปัจจัยจูงใจที่สำคัญของคนใน Gen Y อีกประการหนึ่งคือการทำงานเป็นทีม คนเหล่านี้ไม่ชอบที่จะ นั่งทำงานอยู่คนเดียวง่ายๆ โดยไม่สุงสิงกับใคร คนเหล่านี้ต้องการที่จะทำงานที่มีโอกาสพูดคุย สังสรรกับผู้ อื่น และต้องการสถานที่ทำงานที่มีลักษณะเปิดโล่งที่เปิดโอกาสให้สร้างปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน คนใน Gen Y นั้นอยากจะทำงานในสถานที่ที่สามารถเข้าถึงหรือติดต่อเพื่อนร่วมงานและเจ้านายได้อย่างง่ายดาย ตลอดเวลา

            เมื่อมีการสอบถามคนใน Gen Y ว่าอะไรรางวัลหรือผลตอบแทนอะไรที่คนในรุ่นนี้ให้ความสำคัญ มากที่สุดนั้น เรียงจากความสำคัญมากที่สุดไปน้อย ได้แก่ 1) เพื่อนร่วมงานที่มีคุณภาพ 2) การทำงานที่มี ความยืดหยุ่น 3) โอกาสในการก้าวหน้า ดังนั้นท่านผู้อ่านลองนำคุณลักษณะของคนใน Gen Y ไปลองศึกษา ดูนะครับ และอาจจะต้องลองปรับสภาวะแวดล้อมในการทำงานให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่          ขอจบขอฝากข่าวประชาสัมพันธ์หน่อยนะครับ ทางคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ ได้เชิญ Patrick Georges ซึ่งเป็นผู้คิดและผู้ให้กำเนิด Management Cockpit มาพูดคุยและเล่าถึงพัฒนาการ ของ Management Cockpit ในปัจจุบัน โดยจะจัดเป็นงานสัมมนาขึ้นมาในวันพฤหัสที่ 13 สิงหาคม 2552 ระหว่างเวลา 8.30 – 12.00 ภายใต้หัวข้อเรื่อง Management Cockpit in 2010: Managing in an Economic Downturn ถ้าท่านผู้อ่านสนใจก็สอบถามรายละเอียดได้ที่ 02-218-5867 หรือ http://www.acc.chula.ac.th ครับ