22 August 2007

หัวข้อเรื่องของผมในวันนี้มาจากชื่อหนังสือขายดีสองเล่มครับ เล่มแรกคือ Blue Ocean Strategy ซึ่งคงไม่ต้องกล่าวถึงความโด่งดังนะครับ อีกเล่มคือ Tipping Point ซึ่งเขียนโดย Malcolm Gladwell โดย Tipping Point ปรากฎโฉมออกมาก่อนตั้งแต่ปี 2000 ส่วน Blue Ocean ออกมาหลังจากนั้นอีกห้าปี ซึ่งจริงๆ เราอาจจะคิดว่าหนังสือสองเล่มนี้ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน แต่เมื่อศึกษาลงไปลึกๆ ก็จะพบว่าในหลักการของ Blue Ocean Strategy ที่เราพูดถึงกันมากในปัจจุบันนั้น ได้มีการนำหลักการของ Tipping Point มาปรับใช้อยู่มากพอสมควรครับ

            เชื่อว่าท่านผู้อ่านคงพอจะเริ่มคุ้นเคยกับหลักการของ Blue Ocean Strategy กันพอควรแล้วนะครับ และเชื่อว่าท่านผู้อ่านหลายๆ ท่านก็จะนึกถึง Blue Ocean เฉพาะการเป็นแนวคิดหรือวิธีการคิดทางด้านกลยุทธ์เพื่อนำพาองค์กรสู่น่านน้ำหรือทะเลใหม่ที่นำไปสู่การเติบโตของกำไร แต่จริงๆ แล้วในหนังสือ Blue Ocean Strategy ยังได้ครอบคลุมถึงแนวทางในการนำกลยุทธ์แบบ Blue Ocean ไปปฏิบัติด้วย ความมีเสน่ห์อย่างหนึ่งของหนังสือ Blue Ocean Strategy คือความเป็นหนังสือที่นำเสนอแนวทางในการบริหารกลยุทธ์อย่างครบวงจรเลยครับ ตั้งแต่การมีเครื่องมือในการวิเคราะห์ วิธีการในการคิด กระบวนการในการวางแผนกลยุทธ์ จนกระทั่งถึงวิธีการในการนำกลยุทธ์ไปปฏิบัติ

            เรื่องของ Tipping Point ได้เข้ามาแทรกอยู่ใน Blue Ocean Strategy ในส่วนของการนำกลยุทธ์ไปสู่การปฏิบัติครับ ทั้งนี้เนื่องจากผู้เขียน Blue Ocean Strategy มองว่าการที่เมื่อองค์กรได้คิดกลยุทธ์แบบ Blue Ocean ซึ่งเป็นวิธีคิดที่ขัดกับแนวคิดหรือวิธีคิดแบบเดิมๆ ของกลยุทธ์ ทำให้ต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงที่มากมายพอสมควร เมื่อจะนำแนวคิดดังกล่าวมาใช้ในทางปฏิบัติจริง ดังนั้นการนำกลยุทธ์แบบ Blue Ocean ไปปฏิบัตินั้นจะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงในหลายๆ ด้าน และในการจะบริหารการเปลี่ยนแปลงให้เกิดผลนั้น ทางผู้เขียน Blue Ocean ก็ได้แนะไว้ให้นำหลักของ Tipping Point มาใช้ครับ

            ถ้ายึดตามหนังสือ Tipping Point นั้น Gladwell จะให้คำนิยามของของ Tipping Point ไว้อย่างกว้างๆ ว่าเป็น การเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย ที่ส่งผลกระทบต่อส่วนมาก (Small changes can have big effects) หลักการของ Tipping Point ถือเป็นหลักการที่น่าสนใจในด้านการบริหารการเปลี่ยนแปลงนะครับ โดยท่านผู้อ่านลองนึกถึงแนวคิดการบริหารการเปลี่ยนแปลงแบบเดิมๆ ที่จะต้องเปลี่ยนแปลงทั่วทั้งองค์กร หลักการของ Tipping Point จะมองว่าแทนที่จะเปลี่ยนแปลงทั้งหมดหรือจำนวนมาก ถ้าเราสามารถหาจุดหรือองค์ประกอบที่เหมาะสมได้ การเปลี่ยนแปลงเพียงส่วนน้อย จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในส่วนใหญ่ได้

            จริงๆ หลักของ Tipping Point ไม่จำเป็นต้องใช้กับเรื่องของการบริหารการเปลี่ยนแปลงเพียงอย่างเดียวนะครับ ในด้านการตลาด การประชาสัมพันธ์ การนำเสนอสินค้า บริการใหม่ๆ ออกสู่ตลาด ก็ล้วนแล้วแต่สามารถนำหลักการของ Tipping Point มาปรับใช้ได้ทั้งสิ้นครับ ถ้าท่านผู้อ่านสนใจรายละเอียดของ Tipping Point ก็อาจจะลองหาหนังสือเล่มนี้มาอ่านได้นะครับ

            ทีนี้กลับมาเรื่องของ Tipping Point กับ Blue Ocean Strategy ต่อนะครับ เนื่องจาก Blue Ocean Strategy จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในองค์กร ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวย่อมนำไปสู่การต่อต้านในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการไม่ยอมเปลี่ยนแปลงเนื่องจากไม่เห็นความสำคัญหรือความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลง หรือ การมีทรัพยากรในการเปลี่ยนแปลงที่จำกัด หรือ บุคลากรขาดแรงจูงใจในการเปลี่ยน หรือ แม้กระทั่งการเมืองภายในองค์กรที่กีดขวางการเปลี่ยนแปลง

            ผู้เขียนหนังสือ Blue Ocean ได้นำหลักการของ Tipping Point มาใช้ในการขจัดหรือลดปัญหาอุปสรรคต่างๆ จากการต่อต้านการเปลี่ยนแปลง โดยองค์กรควรจะมุ่งเน้นไปที่จุดใดจุดหนึ่งแทนที่จะกระจายไปทั่ว เราสามารถนำหลักของ Tipping Point มาใช้ในการเปลี่ยนแปลง โดยมุ่งเน้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในจุดหรือส่วนที่สำคัญ จากนั้นการเปลี่ยนแปลงเฉพาะส่วนหรือส่วนเล็กๆ จะส่งผลกระทบทั่วทั้งองค์กร แทนแนวคิดเดิมๆ ที่จะกระจายความพยายามในการเปลี่ยนแปลงไปทั่วทั้งองค์กร

            การนำหลัก Tipping Point มาปรับใช้ จะทำให้การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นสามารถทำได้อย่างรวดเร็วและประหยัดทรัพยากรมากกว่าความพยายามในการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นทีเดียวทั่วทั้งองค์กร เพียงแต่ความท้าทายคือต้องการจุดหรือส่วนเฉพาะที่จะมุ่งเน้นและส่งผลต่อส่วนใหญ่ เช่น อาจจะเป็นบุคคลที่สำคัญภายในองค์กร (โดยไม่ต้องยึดติดกับตำแหน่ง) ที่ถ้าเราสามารถทำให้บุคคลผู้นี้เปลี่ยนแปลงได้แล้ว ก็จะส่งผลหรืออิทธิพลต่อผู้อื่นที่จะเปลี่ยนแปลงตาม หรือ เป็นงานบางชนิดที่เราใส่ทรัพยากรลงไปไม่มาก แต่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ออกมาอย่างมากมาย เป็นต้น

            จริงๆ แล้วหลักการในหนังสือ Tipping Point ยังมีรายละเอียดอีกเยอะนะครับ และถือเป็นวิธีคิดที่น่าสนใจที่เราสามารถปรับใช้กับเรื่องต่างๆ ได้มากมายครับ สำหรับการนำ Tipping Point มาใช้กับ Blue Ocean Strategy นั้น ก็ถือเป็นการผสมผสานระหว่างแนวคิดที่น่าสนใจสองประการครับ โดย Blue Ocean Strategy นำ Tipping Point มาช่วยในการก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล