7 September 2008

คำกล่าวในอดีตที่บอกว่าสถานการณ์สร้างผู้นำนั้นยังคงจริงอยู่นะครับ แต่ในอีกมุมหนึ่งเราก็อาจจะกล่าวได้เหมือนกันว่าสถานการณ์ “ทำลาย” ผู้นำ ได้เหมือนกันครับ ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดคงจะหนีไม่พ้นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองในปัจจุบัน ไม่ว่าผลสรุปจะลงเอยอย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่สูญเสียไปในสายตาของผมก็คือภาวะผู้นำของผู้นำบ้านเมืองเราในปัจจุบันครับ กรณีศึกษาอีกประการหนึ่งที่ผู้ที่สนใจทางด้านการบริหารน่าจะเรียนรู้ได้จากภาวะในปัจจุบันก็คือเรื่องของภาวะผู้นำครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราจับตามองทุกย่างก้าวของผู้นำประเทศ ทำให้เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับหลักการและแนวทางในด้านภาวะผู้นำแล้ว ก็ทำให้อาจจะสรุปได้เลยครับว่าปัจจุบันสถานการณ์ “ทำลาย” ผู้นำเสียแล้ว
ท่านผู้อ่านจะสังเกตเห็นได้นะครับว่าผู้นำในระดับใดก็ตามไม่ว่าจะเป็นระดับชาติหรือองค์กรหรือหน่วยงานหรือแม้กระทั่งในครอบครัว ถ้ายังยึดติดกับความเชื่อเรื่องของผู้นำแบบดั้งเดิมที่บอกว่าผู้นำคือผู้ปกครองสูงสุด อำนาจหน้าที่ทั้งหมดอยู่ที่ผู้นำ คนเป็นผู้นำจะสั่งอะไรทุกคนต้องทำตาม ผู้นำอยากจะทำอะไรตามใจก็ทำได้ จะพูดจากักขฬะ ไม่มีมารยาท สัมมาคาราวะ ฯลฯ ผู้นำประเภทนี้คงจะอยู่ได้ไม่นานหรอกครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งลักษณะของผู้นำยุคโบราณที่ผมอ้างถึงข้างต้นนั้น ดูเหมือนว่าจะสวนทางกับพัฒนาการของประเทศหรือองค์กร ถ้าเป็นในอดีตผู้นำยุคโบราณอาจจะยังสามารถเสวยสุขอยู่ได้ด้วยดี แต่เมื่อองค์กรที่ตนเองปกครองดูแล มีการเรียนรู้และพัฒนาขึ้น บุคลากรในองค์กร มีความรู้ ความคิด และมุมมองที่หลากหลายมากขึ้น ลักษณะของผู้นำยุคโบราณคงจะไม่เหมาะสมอีกต่อไปแล้วครับ
ผู้นำคนไหนก็ตามที่อยากจะเห็นหน่วยงานที่ตนเองดูแลมีการพัฒนาในด้านต่างๆ คงจะต้องปรับเปลี่ยนวิธีคิดเกี่ยวกับ ภาวะผู้นำใหม่นะครับ ในเมื่อคนในองค์กรที่ตนเองกำกับดูแลมีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในด้านความคิด ความรู้ ทักษะ ฯลฯ ผู้นำจะต้องไม่ใช่ผู้ปกครองอีกต่อไปครับ ผู้นำที่อยากจะเห็นองค์กรของตนเองพัฒนาอย่างต่อเนื่องจะต้องเปลี่ยนบทบาทให้เป็นผู้รับใช้ แทนที่จะเป็นผู้ปกครองครับ
ผู้นำที่เป็นผู้รับใช้นั้นแตกต่างจากผู้นำที่เป็นผู้ปกครองนะครับ คำว่าผู้รับใช้ในที่นี้ก็คือการรับใช้ต่อคนในองค์กรครับ แต่ไม่ใช่การรับใช้ประเภทเสริฟน้ำ ล้างรถครับ แต่รับใช้โดยการส่งเสริม สนับสนุนให้คนในองค์กรได้มีการพัฒนาอย่างเต็มที่ สามารถทำงานต่างๆ ได้สำเร็จเพื่อประโยชน์สูงสุดขององค์กรครับ ผู้นำที่เป็นผู้รับใช้ จะต้องขจัดอุปสรรคขวากหนามต่างๆ ที่จะทำให้บุคลากรในองค์กรไม่สามารถทำงานได้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้
ถ้ามองในระดับองค์กรแล้วเห็นไม่ชัดเจน ท่านผู้อ่านลองมองในระดับประเทศซิครับ อาจจะเห็นภาพได้ชัดเจนกว่า ผู้นำประเทศที่จะเป็นผู้รับใช้นั้น คือผู้ที่ปวารณาตนที่จะรับใช้ประชาชน ประเทศชาติ โดยจะทำทุกหนทางเพื่อให้ประชาชนอยู่ดี กินดี ประเทศชาติมีการพัฒนาก้าวหน้า โดยตั้งมั่นอยู่บนหลักของความซื่อสัตย์สุจริต และเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศเป็นใหญ่ ผมมองว่าในระดับประเทศแล้วคนที่ปรารถนาอยากจะเป็นผู้บริหารสูงสุดนั้น ควรจะต้องมีความมุ่งมั่นว่าการเข้ามาเป็นผู้นำประเทศนั้นคือเพื่อรับใช้ประชาชนในประเทศ ไม่ใช่เพื่อรับใช้คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น
พอมองเทียบกับการบริหารองค์กรก็คล้ายๆ กันครับ ผู้ที่อยากจะเป็นผู้บริหารสูงสุดขององค์กรใดก็ตาม ก็ควรจะมีความมุ่งมั่นที่จะรับใช้ต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคนในองค์กร ไม่ใช่รับใช้แต่เฉพาะกับผู้ถือหุ้นเพียงอย่างเดียวครับ จริงอยู่ว่าผู้บริหารองค์กรจะต้องทำให้ผู้ถือหุ้นพอใจ แต่ก็ควรจะทำให้บุคลากรในองค์กรมีความสุขในการทำงาน ทำให้ลูกค้าหรือผู้ได้รับบริการ ได้รับในสิ่งที่ดีที่สุด ทำให้คู่ค้าได้ดำเนินธุรกิจโดยได้รับความเป็นธรรม สังคมและสิ่งแวดล้อมก็ได้รับสิ่งที่ดีๆ จากองค์กร ถ้าเทียบกับระดับครอบครัวและท่านผู้อ่านเป็นหัวหน้าหรือผู้นำครอบครัว ก็เชื่อว่าท่านผู้อ่านก็จะพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ครอบครัวและบุคคลที่ตนรักมีความสุข
ดังนั้นไม่ว่าท่านจะเป็นผู้นำระดับไหน ประเทศ องค์กร หน่วยงาน กลุ่ม หรือ ครอบครัว ขอให้ลองปรับทัศนคติใหม่นะครับ ผู้นำยุคโบราณควรจะสูญพันธุ์ไปได้แล้วครับ จริงอยู่คนเหล่านี้อาจจะเหมาะกับสถานการณ์หนึ่ง แต่คงไม่ใช่สถานการณ์ในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเราจะเห็นได้ชัดเลยนะครับว่าผู้นำยุคโบราณนั้นแทนที่จะทำให้ประเทศ องค์กร หรือ ครอบครัว พัฒนาขึ้น กลับเป็นการทำร้ายองค์กรหรือบุคคลที่ตนเองปกครองอยู่ ทั้งทางตรงและทางอ้อม หัวหน้าครอบครัวที่ชอบใช้กำลัง พูดจาหยาบคาย เราก็จะเห็นอยู่บ่อยๆ ว่าสุดท้ายแล้วครอบครัวก็แตกแยก หรือเด็กก็จะมีปัญหา ผู้นำองค์กรที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน หาช่องทางทุจริตอยู่ตลอดเวลา ก็สุดท้ายทำให้บริษัทดังกล่าวล่มจม ผู้นำก็ติดคุก ส่วนผู้นำประเทศที่ยังเป็นแบบโบราณอยู่ก็คงเป็นอย่างที่เราเห็นกันในปัจจุบันครับ ซึ่งสุดท้ายแล้วผู้ที่ได้รับความสูญเสียก็คือประเทศชาติครับ
ตอนนี้ก็ได้แต่หวังนะครับว่าผู้นำโบราณจะมีวิวัฒนาการอย่างฉับพลันจากไดโนเสาร์เต่าล้านปี เป็นผู้นำที่เป็นผู้รับใช้ นั้นคือนึกถึงประโยชน์ของประเทศและประชาชนเป็นหลักนะครับ