26 September 2007

ถ้าเอ่ยชื่อยักษ์ใหญ่ทางด้านการค้าปลีกอย่าง Wal-Mart คิดว่าคงไม่ต้องแนะนำท่านผู้อ่านกันมากนะครับ ในสัปดาห์นี้เราจะมาคุยกันเรื่อง Wal-Mart กันอีกครั้ง แต่เนื้อหาในคราวนี้ไม่ใช่เรื่องของการค้าปลีก หรือ ความสำเร็จของ Wal-Mart หรือ แม้กระทั่งปัญหาที่ Wal-Mart ประสบอยู่ในปัจจุบันนะครับ แต่เป็นเรื่องที่ทาง Wal-Mart สามารถที่จะบูรณาการเรื่องของการสร้างความยั่งยืน หรือ Sustainability ให้เข้ากับกลยุทธ์ของบริษัทได้อย่างน่าสนใจ และน่าจะเป็นแบบอย่างให้กับองค์กรธุรกิจอื่นๆ ได้ อย่างไรก็ดีมีข้อชวนสังเกตเหมือนกันนะครับว่าการที่ Wal-Mart นำกลยุทธ์เรื่องของความยั่งยืนมาใช้นั้น เจตนาจริงๆ แล้วต้องการช่วยโลก หรือ เพื่อตนเองกันแน่? เรามาดูกันนะครับ
ปัจจุบันองค์กรธุรกิจต่างๆ จะมีความตื่นตัวในเรื่องของสิ่งแวดล้อม การดูแลโลก การลดภาวะโลกร้อน ฯลฯ กันค่อนข้างมาก องค์กรธุรกิจหลายๆ แห่งในไทย ก็พยายามที่จะจัดกิจกรรมเพื่อโลกใบนี้กันมากขึ้น ซึ่งโดยส่วนใหญ่ก็จะออกมาเป็นกิจกรรมหรือโครงการเพื่อสังคม อย่างไรก็ดี การจัดกิจกรรมต่างๆ เหล่านี้ ผู้บริหารยังมองว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการสร้างภาพลักษณ์ให้กับองค์กร และองค์กรเองยังไม่สามารถที่จะใช้ประโยชน์จากกิจกรรมที่จัดขึ้นได้อย่างเต็มที่นอกเหนือจากประโยชน์เรื่องภาพลักษณ์ ซึ่งสาเหตุสำคัญก็หนีไม่พ้นการที่องค์กรไม่สามารถบูรณาการความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะช่วยรักษาโลกใบนี้ ให้เข้ากับกลยุทธ์ขององค์กรอย่างแท้จริง
Wal-Mart เองก็จับกระแสความตื่นตัวของผู้บริโภคในการดูแลและรักษาโลกใบนี้เช่นเดียวกับองค์กรอื่นๆ ครับ แต่สิ่งที่ดูเหมือนจะแตกต่างกันก็คือกรณีของ Wal-Mart นั้นเขาไม่ได้มองเรื่องของการดูแลโลกเป็นเพียงแค่กิจกรรมเพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์เหมือนกับบริษัทอื่นๆ แต่เขาพยายามที่จะบูรณาการเรื่องการดูแลโลกและสิ่งแวดล้อมให้เข้ากับกลยุทธ์ของเขาและเรียกรวมเป็นกลยุทธ์เพื่อความยั่งยืน หรือ Sustainability Strategy
ในปี 2005 ผู้บริหารสูงสุดของ Wal-Mart ประกาศออกมาอย่างชัดเจนครับ ว่า Wal-Mart จะใช้กลยุทธ์เพื่อความยั่งยืนเพื่อที่จะลดผลกระทบจากการดำเนินงานของตนเองต่อสภาวะแวดล้อมโลก และต้องการเป็นองค์กรที่ Most competitive and innovative company in the world โดยทางผู้บริหารสูงสุดของ Wal-Mart มองว่าการที่จะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการทำกำไรเป็นสิ่งที่สามารถไปด้วยกันได้ และจริงๆ แล้วก็เป็นเรื่องเดียวกัน ซึ่งเป็นแนวคิดที่อาจจะแตกต่างจากองค์กรอื่นนะครับ เนื่องจากองค์กรอื่นมักจะมองว่าการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือ การช่วยรักษาโลกนั้นเป็นค่าใช้จ่าย ซึ่งส่งผลในเชิงลบกับกำไร
เพื่อความชัดเจนในการนำกลยุทธ์เพื่อความยั่งยืนมาใช้นั้น ทาง Wal-Mart เขาได้ให้คำนิยามที่ชัดเจนของ “ความยั่งยืน” หรือ Sustainability ไว้อย่างชัดเจน ดังนี้ครับ ‘Sustainability means our cimmitment to better long-term business performance through improved social, economic, and environmental practices.’ (ขออนุญาติไม่แปลนะครับ เกรงว่าความหมายจะเสียไป) นอกจากนี้ Wal-Mart ยังระบุอีกครับว่าสำหรับ Wal-Mart แล้ว เรื่องของความยั่งยืน เป็นวิธีการใหม่ในการมองวิธีการในการทำธุรกิจ ตั้งแต่บนสุดยันล่างสุด โดยทาง Wal-Mart ได้ตั้งเป้าหมายอันท้าทายเกี่ยวกับกลยุทธ์ความยั่งยืนไว้ว่าเพื่อ ใช้ Renewable Energery 100% เพื่อไม่สร้างของเสีย (to create zero waste) และ เพื่อขายสินค้าที่ยั่งยืนต่อทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม
ถ้าพิจารณาดูที่มาที่ไปของกลยุทธ์เพื่อความยั่งยืนของ Wal-Mart ก็อาจจะมองได้สองมุมนะครับ ถ้ามองโลกในแง่ดีก็จะมองว่า Wal-Mart มีความห่วงใยในสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่โลกกำลังประสบกับปัญหาทรัพยากรทางธรรมชาติที่เริ่มลดน้อยลง การเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศและภาวะโลกร้อย รวมทั้งวิกฤติพลังงานที่ทุกประเทศกำลังประสบ แต่ถ้ามองในอีกมุมมองหนึ่งหลายๆ ท่านก็จะบอกว่าสิ่งที่ Wal-Mart กำลังทำนั้นเป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจอีกชนิดหนึ่งที่เน้นการสร้างความแตกต่างให้กับตนเองมากขึ้น ทำให้ Wal-Mart มีภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาประชาชนและลูกค้า รวมทั้งทำให้เกิดความแตกต่างในอุตสาหกรรมที่เน้นแข่งขันในเรื่องของราคาเป็นหลัก
ภายใต้เป้าหมายทั้งสามข้อของ Sustainable Strategy ของ Wal-Mart นั้น (Renewable Energy, Zero Waste, Sustainable Products) ทาง Wal-Mart เขากำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนเลยนะครับ เช่น เรื่องของพลังงานนั้น เขาตั้งเป้าไว้ว่า สำหรับร้านเก่า จะสามารถประหยัดพลังงานได้ถึงร้อยละ 25 ภายใน 7 ปี และถ้าเป็นร้านใหม่ สามารถประหยัดได้ร้อยละ 30 ภายในเวลา 4 ปี หรือเรื่องของ Zero Waste นั้น เขาตั้งเป้าว่าสามารถลดขยะลงได้ถึงร้อยละ 25 ภายในเวลา 3 ปี ส่วนเรื่องของ Sustainable Products นั้น ทาง Wal-Mart ก็ตั้งเป้าที่จะให้บรรดา Suppliers ของเขามีการผลิตสินค้าที่สอดคล้องกับหลัก Sustainable ของแต่ละอุตสาหกรรม รวมทั้งการเข้าไปส่งเสริม Green Company Program ให้กับบริษัทในประเทศจีน ซึ่งถือเป็นแหล่งวัตถุดิบขนาดใหญ่ของ Wal-Mart
เอาไว้สัปดาห์หน้าเรามาดูรายละเอียดกันนะครับว่า Wal-Mart เขาทำอะไรบ้างเพื่อช่วยโลก และเขาบูรณาการเรื่องเหล่านี้เข้ากับกลยุทธ์ของเขาได้อย่างไร