2 December 2007

ในช่วงนี้เราจะพบเห็นบทความทางวิชาการและหนังสือต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการค้นพบใหม่ๆ เกี่ยวกับสมองคนเรามากขึ้นนะครับ ทำให้มีความรู้สึกเหมือนกับว่าสมองของคนเราที่อยู่ติดตัวเรามาตั้งแต่เกิดจนตายยังมีความลึกลับและชวนให้ค้นหาอีกมาก นอกจากนี้ที่น่าสนใจอีกประเด็นก็คือการค้นพบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสมองเรานั้นมักจะสามารถนำมาช่วยพัฒนาและปรับปรุงความสามารถของคนเราในด้านการบริหารจัดการได้อีกด้วยครับ เมื่อไม่นานมานี้ผมเองก็ไปอ่านบทความหนึ่งในวารสาร Harvard Business Review ในฉบับเดือนพฤศจิกายนนี้ ชื่อ Cognitive Fitness เขียนโดย Roderick Gilkey และ Clint Kilts โดยในบทความดังกล่าวทางผู้เขียนพยายามนำผลการค้นพบทางด้านการแพทย์ใหม่ๆ มาช่วยพัฒนาการทำงานของสมองคนเรา โดยผ่านการออกกำลังสมองครับ

จริงๆ เรื่องของการออกกำลังสมองนั้นผมเองก็ได้ยินมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วครับ แต่มักจะเป็นความเชื่อมากกว่า โดยคุณพ่อ คุณแม่ ก็มักจะบอกให้เราหัดคิดเอง หัดใช้สมองในการคิดสิ่งต่างๆ เพื่อให้สมองได้ใช้งานอยู่ตลอดเวลา และจากความเชื่อในอดีตนั้น ปัจจุบันวิทยาศาสตร์ก็พิสูจน์ให้เห็นได้จริงแล้วครับว่าสมองนั้นออกกำลังได้ และการออกกำลังสมองก็จะส่งผลต่อความสามารถและสติปัญญาของคนเรา

บทความ Cognitive Fitness ได้ชี้ให้เห็นครับว่าความเชื่อเดิมๆ เกี่ยวกับการทำงานของสมองเรานั้นไม่เป็นจริงครับ เริ่มตั้งแต่ความเชื่อในอดีตที่เรามักจะคิดว่าสมองจะเริ่มเสื่อมตามอายุ ทำให้เรามักจะชอบนินทา (ลับหลัง) ผู้สูงอายุหลายๆ ท่านว่าสมองเริ่มเสื่อม แต่สิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ค้นพบก็คือเซลประสาทนั้นไม่ได้ตายไปหรือสูญสลายตามช่วงอายุของคนที่เพิ่มมากขึ้น แถมในขณะเดียวกันเซลประสาทในพื้นที่บางส่วนที่สำคัญของสมองเรากลับสามารถเพิ่มจำนวนได้มากขึ้นด้วย ซึ่งเขาเรียกปรากฎการณ์ดังกล่าวว่าเป็น Neurogenesis

สิ่งสำคัญที่ค้นพบก็คือภาวะ neurogenesis นั้นเกิดขึ้นเนื่องมาจากวิถีในการดำรงชีวิตของคนเรานั้นเองครับ เราสามารถพัฒนาและปรับปรุงการทำงานของเซลสมอง และความสามารถของสมองเราได้จากประสบการณ์และสิ่งต่างๆ ที่เราทำในชีวิตประจำวัน ความเชื่อเดิมๆ ที่บอกว่าความสามารถในการทำงานของสมองเรานั้นเกิดขึ้นจากประสบการณ์ในวัยเด็กและจากพันธุกรรมนั้น เริ่มจะสั่นคลอนแล้วครับ ผลปรากฎว่าความสามารถของสมองเรากลับเป็นผลมาจากสิ่งที่เราเลือกที่จะทำและจากประสบการณ์ของเรา

ถือว่าเป็นการค้นพบที่น่าสนใจนะครับ เนื่องจากความเชื่อเดิมๆ ของเรานั้นจะถูกลบล้างเลยครับ เริ่มตั้งแต่ความเชื่อที่ว่าพอเราอายุมากขึ้น สมองจะเริ่มเสื่อมมากขึ้น ซึ่งดูเหมือนจะเริ่มไม่จริงแล้วครับ เนื่องจากถ้าบุคคลผู้นั้นเลือกที่จะใช้ชีวิตอย่างดี มีการออกกำลังสมองอยู่ตลอดเวลา สมองของเขาก็จะไม่เสื่อมตามวัยครับ แถมอาจจะเพิ่มขีดความสามารถในการทำงานเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งในปัจจุบันเราก็เริ่มเห็นตัวอย่างกันเยอะแยะมากขึ้นนะครับที่ผู้สูงอายุหลายๆ ท่าน ดูเหมือนว่าจะไม่เสื่อมความสามารถในทางสติปัญญาเมื่อวัยเพิ่มขึ้นแม้แต่น้อยครับ และดูเหมือนประสบการณ์และสติปัญญาของท่านเหล่านั้น จะคมกริบมากขึ้น เมื่ออายุเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สังเกตได้ง่ายๆ จากบรรดาปราชญ์ในสมัยโบราณทั้งหลายซิครับ ไม่ว่าจะเป็นโซคราตีส เพลโต จนกระทั่งถึงกาลิเลโอ บุคคลต่างๆ เหล่านี้ยังมีความสามารถทางปัญญาในระดับที่เรียกได้ว่าสุดยอดแม้ในวัยหกเจ็ดสิบปี

ความเชื่ออีกประการหนึ่งที่อาจจะต้องถูกหักล้างไปก็คือเรื่องของพัฒนาการของสมองเรา ซึ่งในอดีตก็เชื่อกันว่ามาจากพันธุกรรม และพัฒนาการที่เกิดขึ้นในช่วงวัยเด็กและวัยรุ่น แต่จากการค้นพบทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ ทำให้พบว่าสมองเราสามารถพัฒนาได้ ถ้าผ่านการออกกำลังที่เหมาะสมครับ

ถึงตอนนี้ท่านผู้อ่านอาจจะเริ่มสงสัยแล้วนะครับว่าเราจะออกกำลังสมองอย่างไร ซึ่งคงจะต่างจากการออกกำลังกายนะครับ เนื่องจากเราคงไม่สามารถให้สมองมาเดินหรือวิ่งหรือเข้าสถานออกกำลังกายได้ แต่การออกกำลังสมองนั้นทำได้โดยอาจจะเริ่มต้นจากการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ครับ มีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าการมีความชำนาญในหลายๆ ด้าน เช่น เล่นดนตรี โยนลูกบอลไปมาทีละสี่ห้าลูก การพูดได้หลายภาษา หรือ ไม่กระทั่งการขับรถ ช่วยเพิ่มจำนวนเซลประสาทในสมองของเราได้ครับ

สมองก็เหมือนกับร่างกายของเรานะครับ จะแข็งแรงและเพิ่มขีดความสามารถได้ ก็ต้องมีการออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สมองเราแข็งแรงอยู่ตลอดเวลาเฉกเช่นร่างกายของเรา และยิ่งสมองเราแข็งแรงเท่าไร ก็จะยิ่งทำให้เราสามารถทำการตัดสินใจ แก้ไขปัญหา รวมทั้งรับมือกับความเครียดและการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้สมองที่แข็งแรงยังทำให้เราพร้อมจะเปิดรับต่อสิ่งใหม่ๆ และทางเลือกใหม่ๆ ได้มากขึ้น เรียกได้ว่ามีประโยชน์มากมายครับ เพียงแต่คำถามที่ท่านผู้อ่านอาจจะเริ่มสงสัยแล้วก็คือ ถ้างั้นจะทำให้สมองแข็งแรงขึ้นได้อย่างไร? จะออกกำลังสมองอย่างไร? เอาไว้ในสัปดาห์หน้าเรามาดูกันต่อนะครับ