18 November 2007

ช่วงนี้หลายๆ ท่านกำลังสนใจเรื่องของการบ้านการเมือง ผมเลยอยากจะขอสลับฉากจากการเมืองมาอ่านเรื่องเบาๆ แต่น่าสนใจกันดีกว่านะครับ โดยเป็นเรื่องของข้อแตกต่างระหว่างหญิงกับชาย ที่ผมได้เริ่มนำเสนอไปเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว และสัปดาห์ที่แล้วขอคั่นเรื่องของการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมผจญภัยไป ตามที่ได้เขียนไว้นะครับ เนื้อหาต่างๆ นั้นผมนำมาจากหนังสือหลายๆ เล่มของ Allan และ Barbara Pease ซึ่งเขาก็จะรวบรวมจากงานวิจัยต่างๆ ในเรื่องข้อแตกต่างระหว่างหญิงชายมานำเสนอได้อย่างน่าสนใจทีเดียวครับ

ครั้งที่แล้วได้ลองนำเสนอข้อแตกต่างในด้านต่างๆ ของผู้หญิงและผู้ชาย ท่านผู้อ่านได้อ่านแล้วเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยประการใดครับ? แต่ขอยืนยันนะครับว่าอ้างอิงมาจากหนังสือของต่างประเทศนะครับ ไม่ได้นั่งเทียนเขียน (มีคนรู้จักเขาหาว่าผมน่าจะแต่งนิทานเก่ง:>) ผมเองค่อนข้างจะเห็นด้วยเป็นส่วนใหญ่นะครับเกี่ยวกับข้อแตกต่างระหว่างหญิงและชายที่ได้นำเสนอไว้ แต่ท่านผู้อ่านต้องอย่าลืมนะครับว่าสิ่งต่างๆ ที่นำเสนอนั้นอาจจะไม่ได้เป็นจริงในทุกกรณีสำหรับทุกคนนะครับ อย่าลืมนะครับว่าเป็นสำหรับกรณีทั่วๆ ไปครับ

ก่อนจะมาดูเรื่องของสาเหตุนั้น ลองมาดูประเด็นความแตกต่างระหว่างหญิงชาย นอกเหนือจากที่ผมได้นำเสนอไปในสัปดาห์ที่แล้วนะครับ เผื่อเป็นข้อมูลสำหรับท่านผู้อ่าน

  • ผู้หญิงจะให้ความสำคัญกับการสัมผัส (Touch) มากกว่าผู้ชาย เนื่องจากผู้หญิงจะมีผิวที่บางกว่าผู้ชาย ทำให้ผู้หญิงสามารถรับรู้จากการสัมผัสได้ดีกว่าผู้ชาย มีงานวิจัยเรื่องภาษาร่างกายในตะวันตกนะครับ ที่เขาพบว่าคู่สนทนาผู้หญิงด้วยกันจะมีการสัมผัสหรือแตะร่างกายซึ่งกันและกันในขณะที่สนทนามากกว่าคู่สนทนาผู้หญิงสี่ถึงหกเท่า
  • คุณผู้หญิงก็อย่าเพิ่งดีใจนะครับว่าผู้ชายนั้นหนังหนา (ผิวหนังนะครับ) กว่าผู้หญิง เนื่องจากการที่ผู้หญิงนั้นผิวบางกว่าทำให้มีโอกาสเกิดริ้วรอยบนร่างกายและใบหน้าได้ง่ายกว่าผู้ชาย
  • ในขณะที่ผู้ชายทำงาน หรือ เล่นกีฬา หรือ กำลังมุ่งมั่นกับงานอยู่นั้น พวกเขาจะทนเจ็บ ทนปวดได้ดีครับ แต่เมื่อไม่มุ่งมั่นกับงานหรือทำอะไรอยู่แล้ว ผู้ชายเมื่อเจ็บป่วย จะสำออยได้มากกว่าผู้หญิงครับ ณ ระดับความเจ็บเท่ากัน ผู้หญิงอาจจะไม่แสดงอะไรออกมาให้คนรอบข้างได้รู้ แต่ผู้ชายนั้นจะประกาศก้องเหมือนกับจะเป็นจะตายเลยครับ
  • สำหรับการรับรู้รสชาดนั้น ท่านผู้อ่านคงทราบอยู่แล้วว่าลิ้นเรารับรู้ได้สี่รสหลักๆ ได้แก่ หวาน เค็ม เปรี้ยว และขม ซึ่งจากงานวิจัยพบว่า ผู้ชายจะทำได้ดีในรสเค็มและขมครับ ส่วนผู้หญิงจะทำคะแนนได้ดีในรสหวาน ก็เลยไม่แปลกใจนะครับว่าทำไมผู้ชายจึงชอบดื่มเบียร์มากกว่าผู้หญิง และผู้หญิงชอบกินของหวานมากกว่าผู้ชาย

            เป็นไงครับตัวอย่างข้อแตกต่างระหว่างหญิงชาย คำถามต่อมาคือ ความแตกต่างเหล่านี้มากจากไหน? เท่าที่บรรดาข้อเขียนต่างๆ ดูจะพบว่าข้อแตกต่างระหว่างหญิงและชายนั้นจะมีสาเหตุที่สำคัญมาจากสองเรื่องครับ เรื่องแรกต้องย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยเราเป็นมนุษย์ถ้ำครับ เรื่องที่สองคือสมองของชายและหญิงนั้นแตกต่างกันครับ

            มาดูเรื่องแรกก่อนแล้วกันนะครับ เรื่องแรกคือเป็นพฤติกรรมที่ติดตัวคนเรามาตั้งแต่แรกเป็นมนุษย์ถ้ำครับ ซึ่งตามตำนานแล้วหน้าที่ของผู้ชายและผู้หญิงก็มีความต่างกัน ผู้ชายทำหน้าที่ล่าสัตว์ คุ้มครองคนในครอบครัว ส่วนผู้หญิงมีหน้าที่อยู่ในถ้ำ เตรียมอาหาร เลี้ยงดูลูกๆ ทำให้ความถนัด หรือ ความชำนาญของผู้ชายและผู้หญิงมีต่างกัน โดยนับตั้งแต่ธรรมชาติสร้างมนุษย์มา คุณสมบัติเหล่านั้นก็อยู่ติดตัวชายและหญิงไปเรื่อยๆ

            ในอดีตนั้นผู้ชายจะต้องทำหน้าที่ในการล่าสัตว์ หาอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกไปหาอาหารที่ไกลจากถ้ำที่พัก ทำให้ผู้ชายได้พัฒนาทักษะในเรื่องของทิศทาง ดูทิศทางเก่ง ไม่ค่อยหลงทางง่ายๆ ในขณะที่ผู้หญิงนั้นจะอยู่เฝ้าถ้ำ คอยดูแลบริเวณที่อยู่อาศัย พูดคุยกับเพื่อนผู้หญิงด้วยกัน ทำให้ผู้หญิงได้พัฒนาทักษะในเรื่องของการสื่อสาร การสร้างสัมพันธภาพระหว่างกัน

            ผมเองตอนแรกก็งงเหมือนกันนะครับว่า ทำไมเขาถึงบอกว่าสาเหตุที่ชายและหญิงนั้นแตกต่างกัน สามารถสืบสาวไปได้ถึงสมัยมนุษย์ถ้ำเลย แต่พอดูตัวอย่างหลายๆ ประการก็เริ่มเห็นจริงนะครับ เช่น ตามตำนานเล่าว่าหลายพันปีที่แล้วมนุษย์ถ้ำผู้ชายก็จะนั่งเฝ้าหน้าถ้ำ เพื่อป้องกันภัยอันตรายจากสัตว์ต่างๆ โดยมนุษย์ถ้ำเหล่านั้นจะนั่งหันหลังให้ถ้ำและหันหน้าออกไปเพื่อคอยสอดส่องอันตราย ซึ่งพฤติกรรมเหล่านั้นก็ยังติดตัวผู้ชายมากระทั่งถึงปัจจุบัน ท่านสุภาพบุรุษลองสังเกตดูนะครับว่าท่านเลือกที่นั่งในห้องประชุม หรือ ร้านอาหาร ก็ตาม จะเลือกนั่งหันหน้าเข้าหาประตูหรือหันหลังให้กับประตู?

            ผู้ชายส่วนมาก (รวมทั้งผมด้วย) มักจะเลือกนั่งหันหน้าออกหน้าประตู เพื่อให้เราเกิดความรู้สึกที่มั่นคง ปลอดภัย ไม่มีใครสามารถย่องเข้ามาแทงข้างหลังเราได้ หรือ แม้กระทั่งในห้องนอนที่บ้านของเรา ลองสังเกตดูซิครับว่าผู้ชายจะเลือกนอนเตียงฝั่งไหน ไกลหรือใกล้กับประตูห้อง? เชื่อว่าโดยสัญชาติญาณแล้วผู้ชายส่วนใหญ่ก็มักจะเลือกฝั่งที่ใกล้ประตูห้องที่สุด (ส่วนใหญ่มักจะอ้างว่าจะได้หลบหนีและกลับเข้ามาได้อย่างรวดเร็ว โดยภรรยาไม่รู้ตัว) ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากสัญชาติญาณที่ติดตัวเรามาตั้งแต่สมัยเป็นมนุษย์ถ้ำที่ต้องคอยเฝ้าระแวดระวังภัยที่ปากถ้ำเป็นสำคัญ

            สัปดาห์นี้จบไว้แค่นี้ก่อนนะครับ สัปดาห์หน้าเรามาดูสาเหตุเรื่องสมองของหญิงและชายกันต่อนะครับ ถือว่าหาทางเลือกใหม่ๆ ในการอ่านช่วงเลือกตั้งแล้วกันนะครับ