8 April 2004

ท่านผู้อ่านให้ความสำคัญกับการให้คุณค่าและความสำคัญกับพนักงานบ้างไหมครับ? ถ้าท่านผู้อ่านเป็นผู้บริหาร ท่านผู้อ่านลองนึกดูนะครับว่าโดยปกติท่านมีการแสดงออกถึงการให้คุณค่าและความสำคัญกับพนักงานของท่านอย่างไร? หรือถ้าท่านเป็นพนักงานในองค์กร ท่านลองนึกดูนะครับว่าผู้บังคับบัญชาของท่านได้มีการแสดงออกถึงการให้คุณค่าและความสำคัญกับตัวท่านบ้างไหม? การให้คุณค่าและความสำคัญกับพนักงาน (Employee Recognition) เป็นสิ่งที่ทุกคนรู้ว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ เป็นสิ่งที่ช่วยจูงใจ และสร้างขวัญและกำลังใจให้กับบุคลากรในองค์กร แต่ทั้งๆ ที่รู้อยู่ผู้บริหารจำนวนมากก็ไม่ได้แสดงออกถึงการให้ความสำคัญและคุณค่าแก่พนักงานเท่าที่ควร หรือคิดว่าตนเองทำแล้วแต่เราจะพบว่าในหลายๆ สถานการณ์ พนักงานกลับไม่ได้รู้สึกว่าตนเองมีคุณค่าหรือความสำคัญขึ้นมาแต่อย่างใด เมื่อองค์กรจัดกิจกรรมเหล่านั้นขึ้นมา เพราะทำไมถึงเป็นเช่นนั้นครับ? 

ที่องค์กรของท่านผู้อ่านได้มีการจัดกิจกรรมงานเลี้ยงขอบคุณพนักงาน หรือมอบของรางวัลให้กับพนักงานที่ทำงานได้ดี แต่เมื่อจัดกิจกรรมเหล่านี้แล้ว แทนที่จะจูงใจหรือทำให้ขวัญและกำลังใจของพนักงานดีขึ้นแล้ว พนักงานกลับไม่เห็นความสำคัญของกิจกรรมเหล่านี้บ้างไหมครับ? ผมลองยกตัวอย่างองค์กรหนึ่งนะครับที่มีการมอบรางวัลพนักงานโดดเด่น (ที่บริษัทนี้เขาเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Terrific Employee Award) พนักงานในบริษัทนี้ต่างรู้สึกว่าชื่อของรางวัลนี้ก็ดูไม่ค่อยเข้าท่า อีกทั้งเหล่าพนักงานที่ได้รับรางวัลนี้ก็ไม่รู้ว่าตนเองทำความดีอะไรถึงได้รางวัลนี้ ตัวผู้บริหารสูงสุดก็ไม่เคยเข้ามายุ่งเกี่ยวหรือข้องแวะกับรางวัลนี้แต่อย่างใด มีเพียงแค่คนในหน่วยบุคคลที่ตื่นเต้นและกระตือรือร้นสำหรับรางวัลนี้ ตอนแรกก็พยายามให้พนักงานในองค์กรลงคะแนนว่าใครควรเป็นพนักงานดีเด่น แต่ไม่ค่อยมีใครส่งคำตอบมา ในตอนหลังทางฝ่ายบุคคลก็เลิกการลงคะแนนเสียงแล้วใช้วิธีการคัดเลือกด้วยตนเอง รางวัลที่พนักงานโดดเด่นได้รับก็คือเช็คของขวัญ ซึ่งพนักงานที่ได้รับก็รู้สึกดีนะครับที่ได้เงิน เพียงแต่พวกเขาไม่ทราบความหมายที่อยู่เบื้องหลังรางวัลนี้แต่อย่างใด เป็นอย่างไรบ้างครับ ที่องค์กรของท่านผู้อ่านเกิดสถานการณ์ในลักษณะข้างต้นไหมครับ? ถ้าเกิดขึ้นก็แสดงว่ากิจกรรมที่องค์กรเพียรพยายามคิดขึ้นมาเพื่อแสดงออกถึงคุณค่าและความสำคัญของพนักงานกลับไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างที่คิดไว้

คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าการแสดงออกถึงความสำคัญและคุณค่าของพนักงานนั้นอยู่ที่สิทธิพิเศษต่างๆ ที่พนักงานได้รับ (Perks) หรือที่โบนัสที่องค์กรให้กับพนักงานทุกปี หรือผลตอบแทน (Incentives) แต่จริงๆ แล้วสิ่งต่างๆ ข้างต้นด้วยตัวของมันเองไม่ได้เป็นสิ่งที่แสดงออกถึงคุณค่าและความสำคัญของพนักงานหรอกนะครับ สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงแค่เครื่องมือเท่านั้น อย่างเช่นสิทธิประโยชน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรถประจำตำแหน่ง หรือการจัดงานเลี้ยงให้พนักงาน ไม่ได้แสดงให้เห็นว่าผู้บริหารได้ตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของพนักงานหรอกนะครับ การจัดงานเลี้ยงเป็นสิ่งที่ทำได้ง่าย เมื่อจบงานเลี้ยง ทุกคนก็แยกย้ายกลับไป พอวันรุ่งขึ้นทุกคนก็มาทำงานต่อตามเดิม คำถามก็คือในวันรุ่งขึ้นนั้นพนักงานรู้สึกว่าตนเองได้รับยกย่องหรือเห็นถึงคุณค่าหรือไม่? แต่ถ้าในช่วงหลังของงานเลี้ยงผู้บริหารระดับสูงลุกขึ้นมาประกาศให้ทุกคนทราบว่างานเลี้ยงนี้ได้จัดขึ้นมาเพื่อยกย่องหรือประกาศเกียรติคุณให้กับพนักงานในเรื่องใด จากการเป็นงานเลี้ยงธรรมดา ก็จะกลายเป็นงานเลี้ยงที่แสดงออกถึงคุณค่าและความสำคัญของพนักงานขึ้นมา โบนัสก็เหมือนกันครับ เดี๋ยวนี้ดูเหมือนโบนัสกลายเป็นสิ่งที่พนักงานคาดหวังอยู่แล้ว แต่เมื่อได้รับโบนัสมาก็ไม่ได้ทำให้พนักงานแต่ละคนรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่าหรือความสำคัญขึ้นมา กลับรู้สึกว่าเป็นของที่จะต้องได้อยู่แล้ว โจทย์สำหรับท่านผู้บริหารก็คือ ทำอย่างไรถึงจะให้พนักงานรู้สึกว่าโบนัสที่ได้รับนั้นแสดงให้เห็นถึงการตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของพนักงานจากใจผู้บริหาร

ดูเหมือนว่าการแสดงออกถึงคุณค่าและความสำคัญของพนักงาน (Recognition) ที่หลายๆ องค์กรใช้จะไม่ได้ผลเท่าไรนะครับ แถมในบางองค์กรก็สลับซับซ้อนจนพนักงานเองเกิดความมึนงงไปก็มี จริงๆ แล้วผมเชื่อว่าสิ่งที่ผู้บริหารสามารถแสดงออกถึงคุณค่าและความสำคัญของพนักงานนั้นทำได้ง่ายๆ (ถ้าผู้บริหารคิดจะทำ) ไม่ว่าจะเป็นการกล่าวแสดงความขอบคุณหรือชื่นชมต่อหน้าเพื่อนร่วมงาน หรือ ตัวต่อตัว หรือ ผ่านทางสื่อต่างๆ เช่น การเขียนโน้ตสั้นๆ (ด้วยลายมือของผู้บริหารเอง) เพื่อขอบคุณต่อพนักงาน หรือ แม้กระทั่งการเปิดโอกาสให้ทำงานในสิ่งที่ท้าทายหรือมีความหมายมากขึ้นก็เป็นแนวทางหนึ่งแล้วครับที่จะแสดงให้พนักงานทราบว่าผู้บริหารได้เห็นถึงคุณค่าและความสำคัญของเขา หรือแม้กระทั่งการทักทายธรรมดา ก็ทำให้พนักงานรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่าและความสำคัญทีเดียว ทั้งนี้เนื่องจากตามหลักทั่วๆ ไปแล้ว พนักงานทุกคนต้องการให้ตนเองเป็นที่รับรู้หรือมองเห็นถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากผู้บริหารระดับสูง (ผมเองเคยมีประสบการณ์ด้วยตนเองครับ ตอนจบปริญญาตรีใหม่ๆ เข้าไปทำงานอยู่องค์กรแห่งหนึ่ง เข้าไปนั่งตะกายผนังอยู่สามเดือน เนื่องจากไม่มีใครสนใจที่จะมอบหมายงานให้ทำ และกรรมการผู้จัดการก็เดินผ่านโต๊ะผมทุกวัน แต่ก็ไม่เห็นแกจะสนใจอะไร ทำอยู่ได้สามเดือนเลยลาออกไปเรียนต่อดีกว่าครับ) ถ้าคนที่เป็นเจ้านายระดับสูงของท่านทักทายท่านและจำชื่อท่านได้ ท่านเองก็จะรู้สึกว่าตนเองมีความสำคัญขึ้นมา (ทำให้นึกถึงโฆษณาเครื่องดื่มยี่ห้อหนึ่งนะครับ ที่คนที่เป็นเจ้านายจำชื่อและรายละเอียดของลูกน้องได้หมดทุกคน แม้กระทั่งยามหน้าบริษัท)

ทีนี้เรามาดูกันนะครับว่าอะไรคือองค์ประกอบที่สำคัญและจำเป็นที่จะทำให้การแสดงออกถึงคุณค่าและความสำคัญของพนักงานเกิดประสิทธิผลจริงๆ องค์ประกอบทั้งสี่ข้อนี้เป็นสิ่งที่ง่ายแต่มักจะละเลย และควรจะมีอย่างน้อยข้อใดข้อหนึ่งที่จะทำให้การแสดงออกถึงความสำคัญประสบผลจริงๆ

  1. การยกย่องหรือชื่นชม ผมเชื่อว่าทุกคนย่อมอยากที่จะได้ยินคนที่เป็นเจ้านายชมเรานะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เป็นประโยชน์ต่อองค์กร แต่ก็มีข้อควรระวังเกี่ยวกับการชมเหมือนกันนะครับ อาทิเช่น จะต้องมีความชัดเจนพอสมควรนะครับว่าชมในเรื่องเกี่ยวกับอะไร หรือ ชื่นชมในระดับที่เหมาะสมไม่เว่อร์เกินไปจนดูเหมือนขาดความจริงใจ (เคยมีเพื่อนเล่าให้ผมฟังเหมือนกันครับว่านายของเขาชอบชื่นชมทุกตลอดเวลาด้วยคำหวานนานาชนิด จนทุกคนลงความเห็นว่าจริงๆ แล้วคนๆ นี้เป็นประเภทปากหวาน ก้นเปรี้ยว) หรือ จะต้องชมในช่วงเวลาที่เหมาะสมด้วย ไม่ใช่พนักงานทำดีไปแล้วอีกหกเดือนให้หลังค่อยมาชม ขืนเป็นแบบนี้คงจะต้องรื้อฟื้นกันยาวแน่ๆ ครับว่าชมเรื่องอะไร มีประเด็นหนึ่งที่ผู้บริหารต้องคำนึงเหมือนกันนะครับ นั้นคือคนแต่ละคนมีความแตกต่างกัน ดังนั้นบางคนชอบให้ถูกชมต่อหน้าคนหมู่มาก แต่บางคนก็ไม่ชอบ และรู้สึกเขิน แต่จะรู้สึกดีถ้าถูกชมเป็นการส่วนตัวมากกว่า
  2. การขอบคุณ ซึ่งดูเหมือนเป็นคำที่ง่ายติดปากทุกคน แต่เจ้านายมักจะไม่ค่อยพูดกับลูกน้องเท่าไร เมื่อเจ้านายกล่าวคำขอบคุณ (ที่จริงใจนะครับ) ออกมา พนักงานเองก็จะรับรู้ว่าเจ้านายได้เห็นถึงคุณค่าและความสำคัญของพวกเขา การขอบคุณนั้นทำได้หลายแบบครับ ไม่ว่าจะเป็นการพูดขอบคุณต่อหน้า (อาจจะต่อหน้าคนหมู่มาก หรือ เป็นการส่วนตัว ขึ้นอยู่กับลักษณะของลูกน้องแต่ละคนอีกด้วยครับ) หรือ การเขียนขอบคุณบนกระดาษโน้ตเล็กๆ ซึ่งการเขียนด้วยลายมือตนเองทำให้เกิดความรู้สึกเป็นกันเองมากกว่าให้เลขาพิมพ์ให้แล้วเจ้านายเซ็นชื่ออย่างเดียว หรือในโลกยุคใหม่เช่นปัจจุบันการแสดงความขอบคุณทางอีเมลก็ยังเป็นไปได้แล้วเลยครับ
  3. โอกาส เป็นการแสดงออกถึงคุณค่าและความสำคัญของพนักงานอย่างหนึ่งที่เรามักจะนึกไม่ถึง แต่พนักงานจำนวนมาก (โดยเฉพาะพวกที่ชอบงานที่ท้าทายและการเติบโต) จะบอกเลยครับว่าถ้าเจ้านายให้โอกาสในหลายๆ เรื่องแสดงว่าเจ้านายเขาเห็นถึงคุณค่าและความสำคัญของพนักงาน การให้โอกาสในที่นี้ทำได้หลายรูปแบบครับ ไม่ว่าจะเป็นการให้โอกาสในการแสดงความคิดเห็นในการตัดสินใจที่สำคัญ หรือ การมอบหมายอำนาจ หน้าที่ในการทำงานมากขึ้น หรือ การเปิดโอกาสให้พนักงานได้เข้ารับการพัฒนาและอบรมตามที่พวกเขาต้องการ หรือ แม้กระทั่งโอกาสในการเป็นพี่เลี้ยงให้กับพนักงานรุ่นน้อง
  4. ความเคารพ ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเจ้านายจะต้องแสดงความเคารพลูกน้องนะครับ แต่เป็นการเคารพถึงสิทธิส่วนบุคคลหรือความต้องการของพนักงาน เมื่อคนที่เป็นเจ้านายจะตัดสินใจอะไรซักอย่างหนึ่ง ถ้าลูกน้องทราบว่าก่อนที่เจ้านายจะตัดสินใจอะไรลงไปนั้น ได้คิดแล้วว่าจะส่งผลต่อพนักงานอย่างไร ก็ทำให้ลูกน้องทราบแล้วว่าเจ้านายให้ความสำคัญกับพนักงานและมักจะนึกถึงพนักงานเสมอก่อนที่จะตัดสินใจอะไร

เป็นอย่างไรบ้างครับแนวทางในการแสดงให้เห็นถึงคุณค่าและความสำคัญของพนักงาน ท่านลองกลับไปใช้ดูบ้างก็ได้นะครับ จริงๆ แล้วเป็นสิ่งที่ง่ายมากและเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องไปจัดกิจกรรมอะไรให้ฟู่ฟ่าแต่อย่างใด