30 January 2005

ในยุคของการแข่งขันและการทำงานเช่นในปัจจุบัน ผมเชื่อว่าท่านผู้อ่านเกือบทุกท่านจะต้องมีภาระความรับผิดชอบเกี่ยวกับงานที่จะต้องทำมากกว่าสองอย่างพร้อมๆ กันเป็นประจำ ท่านผู้อ่านมีอาการเหล่านี้ไหมครับ? ทำงานหรือประชุมในเรื่องหนึ่งอยู่ โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นแล้วก็มีเรื่องใหม่ที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องเดิมมาให้ท่านปวดหัว หรือจะต้องออกจากการประชุมก่อนหมดเวลาทุกครั้งเนื่องจากจะต้องวิ่งไปประชุมอีกงานหนึ่ง หรือจะต้องรับทานอาหารเที่ยงบนโต๊ะทำงานหรือในรถเนื่องจากมีเวลาไม่พอที่จะนั่งทานข้าวแบบปกติธรรมดาได้ หรือตารางการนัดหมายของท่านไม่มีช่องว่างระหว่างวันให้ท่านพัก ฯลฯ ดูเหมือนว่าอาการข้างต้นเป็นอาการที่เป็นปกติธรรมดามากขึ้นในสภาวะแวดล้อมการทำงานในปัจจุบัน ผมเชื่อว่าบางท่านก็ชอบที่จะให้เกิดอาการเหล่านั้นขึ้นมา (หมายถึงว่าท่านมีความสำคัญ หรือ ท่านมีงานเข้ามามาก) ซึ่งบางคนก็สามารถทำได้ดี (ไม่ทราบเหมือนกันนะครับว่าเขาทำได้อย่างไร?) แต่บางคนก็เจอภาวะวิกฤตในชีวิตไปเลย 

บทความในสัปดาห์นี้ไม่ได้เขียนขึ้นมาสำหรับคนกลุ่มแรก (ที่ชอบอาการเหล่านี้และประสบความสำเร็จภายใต้ภาวะข้างต้น) แต่สำหรับผู้ที่ยังอยากใช้ชีวิตแบบปกติสุขแบบคนทั่วไปในอดีตครับ การที่งานล้นหรือมากเกินไปมักจะเกิดมาจากงานที่เข้ามามากเกินไป หรือเวลาที่มีอยู่น้อย หรือการที่ไม่สามารถปฏิเสธผู้อื่นได้ หรือบางครั้งก็เนื่องจากไม่รู้จักพอดี (คำว่าพอดีในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเงินอย่างเดียวนะครับ ทั้งตำแหน่ง ชื่อเสียง งานที่ต้องทำ ฯลฯ) และสุดท้ายอาจจะคิดว่าตัวเองเป็นยอดมนุษย์ก็ได้ 

ถ้าท่านผู้อ่านเลือกและอยากที่จะใช้ชีวิตแบบมีคุณภาพ (เช่นไม่ต้องทานข้าวหรือเปลี่ยนเสื้อผ้าบนรถ) ท่านก็ต้องเริ่มจากการไม่ไปหมกมุ่นและให้ความสำคัญกับผลิตภาพและประสิทธิภาพจนมากเกินไป (Productivity and Effeciency) รวมทั้งไม่ต้องไปสนใจต่อคำชมของผู้อื่นว่าท่านเป็นพวกที่สามารถทำงานได้หลายๆ อย่างพร้อมกัน (Multitasking) และเป็นผู้ที่มีประสิทธิภาพ บางทีเราก็มักจะหลงไปยึดติดและหมกมุ่นกับคำเหล่านี้มากเกินไปจนทำให้ชีวิตเราไม่มีความสุขได้ ท่านผู้อ่านเวลานึกถึงคำว่า ผลิตภาพ ประสิทธิภาพ หรือ Multitasking ขึ้นมาทีไรนะครับ ขอให้นึกถึงคำอื่นตามมาด้วย เช่น ครอบครัว สุขภาพ พักผ่อน ความสุข ฯลฯ แล้วท่านอาจจะลืมคำในชุดแรกไปเลยก็ได้ บางท่านก็อาจจะเถียงผมว่าถ้าเราขาดผลิตภาพ ขาดประสิทธิภาพในการทำงาน ก็อาจจะส่งผลต่อผลงานและความก้าวหน้าในอาชีพได้ ซึ่งก็ถึงประเด็นสำหรับแต่ละคนแล้วครับว่าจะเลือกอะไร ผลิตภาพ ประสิทธิภาพ หรือ คุณภาพชีวิตที่ดี ผมไม่ค่อยเจอเท่าไหร่นะครับที่คำทั้งสองกลุ่มนั้นสามารถที่จะไปด้วยกันด้วยดีในระยะยาว

สาเหตุสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้พวกเราแต่ละคนมีงานล้นมือกันตลอดเวลาก็ต้องโทษความก้าวหน้าของเทคโนโลยีครับ ในอดีตที่เทคโนโลยี (โดยเฉพาะด้านการสื่อสาร) ยังไม่ก้าวหน้าเท่าปัจจุบัน ผมก็เห็นคนรุ่นพ่อรุ่นแม่สามารถมีชีวิตอย่างมีความสุขแล้วก็ก้าวหน้าในอาชีพการงานได้ เราเคยคิดว่าเทคโนโลยีทำให้ชีวิตเราสะดวกขึ้น มีผลิตภาพและประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นสิ่งที่บั่นทอนคุณภาพชีวิตของเราเช่นเดียวกัน เริ่มง่ายๆ ก็โทรศัพท์มือถือที่ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ตามเราไปทุกที่ บางบริษัทให้พนักงานพักร้อนได้แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องเปิดโทรศัพท์มือถือตลอดเวลา และยิ่งพัฒนาการที่ก้าวหน้ายิ่งขึ้น เราก็เป็นทาสของมันมากขึ้น ผมเองก็เป็นประจำครับ เมื่อใดก็ตามที่พาครอบครัวไปเที่ยวทะเล แต่ต้องพกโน้ตบุคไปด้วยเพื่อนั่งพิมพ์บทความให้ท่านผู้อ่านในขณะที่นั่งมองลูกๆ เล่นทราย ประเด็นที่สำคัญอีกประการเกี่ยวกับเทคโนโลยีก็คือ เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้าขึ้นความคาดหวังก็เพิ่มมากขึ้นด้วย ต่อให้ท่านไปเที่ยวต่างประเทศ เมื่อมีเรื่องด่วนลูกน้องท่านก็สามารถส่งข้อความ sms ไปที่มือถือของท่าน เพื่อให้ท่านรีบโทร.กลับมาที่ทำงาน

ในบางกรณีท่านอาจจะมีเวลาเพียงพอที่จะทำงานให้สำเร็จโดยไม่ทำให้คุณภาพชีวิตเสีย แต่ท่านก็ทำไม่ได้เนื่องจากท่านไม่สามารถจัดระเบียบชีวิตหรือจัดระเบียบในการทำงานของท่านเองได้ ซึ่งในเรื่องนี้ผมมองว่าขึ้นอยู่กับบุคลิกและลักษณะเฉพาะตัวของแต่ละคนปัจจุบันก็ได้มีเทคโนโลยีหรือเครื่องมือทางการจัดการที่ทำให้เราสามารถมีระเบียบในการทำงานได้มากขึ้น แต่ทีนี้ก็มีข้อควรระวังนะครับ นั้นคือยิ่งคนรอบข้างของท่าน (เจ้านาย เพื่อนร่วมงาน และลูกน้อง) ทราบว่าท่านมีความสามารถในการจัดระเบียบการทำงานได้ดี พวกเขาเหล่านั้นก็จะยิ่งมีความคาดหวังในตัวของท่านมากยิ่งขึ้น ลองดูตัวอย่างง่ายๆ ก็ได้ครับ เมื่อเราได้รับมอบหมายงานมาชิ้นหนึ่ง ซึ่งเจ้านายคาดว่าน่าจะใช้เวลาสองวันเสร็จ แต่เนื่องจากท่านมีความสามารถในการทำงานและจัดระเบียบในการทำงานได้ดีทำให้ท่านสามารถทำงานนั้นเสร็จในเวลาหนึ่งวัน ทัศนคติที่เจ้านายของท่านมีต่อท่านก็จะเปลี่ยนไป งานที่จะมอบให้รับผิดชอบก็จะมากขึ้นและต้องการเวลาน้อยลงเรื่อยๆ หลายคนมักจะชอบบ่นครับ ว่ายิ่งเก่งก็ยิ่งได้รับการคาดหวังมากขึ้น แล้วก็ยิ่งเหนื่อยมากขึ้น ในขณะที่บางคนอาจจะทำงานได้เสร็จเร็วกว่ากำหนด แต่ยังไม่ยอมนำส่งงานจนกว่าจะถึงเวลา บุคคลเหล่านี้ก็จะมีเวลาว่างมากขึ้นและความคาดหวังที่ได้รับก็จะไม่สูงเท่าพวกแรก ถึงตรงนี้ท่านผู้อ่านก็จะต้องเลือกเส้นทางของตนเองนะครับว่าจะเอาอย่างไร จะเป็นคนเก่ง มีโอกาสก้าวหน้า ได้รับความคาดหวังไว้สูง แต่ในขณะเดียวกันงานหนัก เหนื่อย ไม่มีเวลาหายใจ หรือ จะเป็นผู้ที่ทำงานดี อาจจะก้าวหน้าช้ากว่าพวกแรก มีประสิทธิภาพและผลิตภาพในการทำงานที่น้อยกว่า แต่มีเวลากลับมาทานข้าวเย็นกับครอบครัวทุกวัน เสาร์ อาทิตย์ ก็ได้หยุดพักผ่อน

ท่านผู้อ่านอาจจะสงสัยนะครับว่าผมกำลังจะบอกให้ลดผลิตภาพและประสิทธิภาพในการทำงานลง ส่งผลให้ความก้าวหน้าในอาชีพช้าลง ซึ่งก็แล้วแต่จะมองนะครับ ท่านผู้อ่านคงจะต้องเป็นผู้เลือกเองว่าจะเอาอย่างไร? สัปดาห์หน้าเรามาดูกันต่อนะครับว่าทำอย่างไรถึงจะให้ชีวิตมีคุณภาพดีขึ้น และไม่มีงานล้นมือมากเกินไป