3 April 2004
สัปดาห์นี้ผมขออนุญาตเปลี่ยนเนื้อหาและวิธีการนำเสนอหน่อยนะครับ ถือเป็นการแก้อากาศที่กำลังร้อนอบอ้าวตอนนี้ ผมจะเล่ากรณีศึกษาสั้นๆ ทางด้านการจัดการให้ท่านผู้อ่านเรื่องหนึ่ง แล้วท่านผู้อ่านลองพิจารณาดูนะครับว่าถ้าท่านตกอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าว ท่านจะทำอย่างไร ถ้าสนใจก็อาจจะเขียนส่งมาให้ผมก็ได้ แล้วในสัปดาห์หน้าผมจะนำความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญมาเล่าให้ฟัง
ในเรื่องนี้สมมติว่าท่านเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทผลิตซอฟแวร์สำหรับธุรกิจแห่งหนึ่งนะครับ และในวันอาทิตย์วันหนึ่งท่านผู้อ่านก็ได้เข้ามาทำงานที่บริษัทเนื่องจากงานของท่านยังไม่เสร็จดี ท่านผู้อ่านเจอสมชาย (นามสมมติ) ซึ่งเป็นโปรแกรมเมอร์สำคัญของหน่วยท่านมาทำงานด้วย เมื่อท่านทักทายสมชายว่าทำไมต้องเข้ามาทำงานในวันอาทิตย์เช่นนี้ สมชายก็ตอบในทำนองที่ว่างานที่จะต้องทำยังไม่เสร็จ และใกล้ถึงกำหนดส่ง ท่านเองในฐานะเจ้านายโดยตรงของสมชายก็รู้สึกชื่นชมต่อความขยันขันแข็งของสมชายเป็นอย่างมาก ท่านถึงกับเอ่ยปากชมสมชายและให้คำสัญญากับสมชายว่าถ้างานนี้เสร็จตามกำหนด สมชายจะต้องได้รับรางวัลอย่างใดอย่างหนึ่งแน่นอน ผ่านไปตลอดทั้งวันนั้นต่างคนก็ต่างนั่งทำงาน โดยที่ไม่ได้สุงสิงอะไรกันแต่อย่างใด งานอย่างหนึ่งของท่านในวันนั้นคือการพิจารณาการเลื่อนตำแหน่งโปรแกรมเมอร์คนใดหนึ่งให้ขึ้นมาเป็นผู้บริหารระดับต้นที่คุมโปรแกรมเมอร์ทั้งหมดของกลุ่ม ซึ่งสมชายเองก็เป็นหนึ่งที่อยู่ในผู้ที่มีสิทธิ์ที่จะได้รับคัดเลือกเช่นกัน ในวันนั้นท่านยังไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะเลื่อนโปรแกรมเมอร์คนไหนให้มาเป็นหัวหน้าของทั้งหมด แต่ใจของท่านเริ่มเอนเอียงไปทางสมชายแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นถึงความขยันขันแข็งของเขาที่มีการเข้ามาทำงานในวันหยุดด้วย
จนกระทั่งตกเย็นที่ท่านใกล้จะกลับบ้าน ท่านในฐานะที่เป็นเจ้านายที่ดีก็จะเดินไปดูว่าสมชายเป็นอย่างไรบ้าง และเมื่อเดินเข้าไปหาสมชายจากทางด้านหลัง ท่านก็พบว่าสิ่งที่สมชายกำลังขมักเขม้นนั่งทำบนเครื่องคอมพิวเตอร์ของเขานั้นไม่ใช่การเขียนโปรแกรมทางธุรกิจตัวใหม่ล่าสุดของบริษัทที่ท่านคิดว่าสมชายนั่งทำงานอยู่ทั้งวัน แต่กลับกลายเป็นว่าสมชายกำลังเขียนโปรแกรมเกมสามมิติให้กับบริษัทอื่นอยู่ ท่านเองรู้สึกตกใจกับสิ่งที่เห็นแต่ก็ตัดสินใจที่จะยังไม่เข้าไปคุยกับสมชายในขณะนั้น จนกระทั่งอีกหลายวันต่อมา ท่านได้ชวนสมชายไปทานข้าวเที่ยวด้วยกันแล้วก็ได้ถามสมชายเกี่ยวกับงานพิเศษที่สมชายรับทำ ตอนแรกสมชายก็ดูตกใจนิดหน่อยที่ท่านทราบเรื่อง แล้วก็ยอมรับสิ่งที่ตนเองทำนั้นเป็นของบริษัทของคนรู้จักและสมชายเองก็ได้รับค่าตอบแทนที่สูงสำหรับการเขียนโปรแกรมเกมดังกล่าว นอกจากนี้สมชายยังชี้แจงด้วยว่าการที่เขารับเขียนโปรแกรมให้กับบริษัทอื่นนั้นก็ไม่ได้เป็นคู่แข่งของบริษัทท่านแต่อย่างใด อีกทั้งเขาเองก็ยังทุ่มเทและทำงานให้กับการพัฒนาโปรแกรมใหม่ของบริษัทอย่างเต็มที่ สมชายเองเชื่อว่าเขาสามารถแบ่งเวลาได้ถูกต้องและทำให้งานที่ทำอยู่ทั้งสองอย่างออกมามีคุณภาพสูง นอกจากนี้เขาเองก็บอกกับผู้ที่จ้างเขาเขียนเกมว่า เขาจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาโปรแกรมของบริษัทก่อนเป็นสิ่งแรก แรกสุดท่านเองจะโต้แย้งกับสมชายอย่างรุนแรง แต่ก็มาคิดได้ว่าถ้าทำอะไรรุนแรงไปสมชาย ซึ่งถือว่าเป็นโปรแกรมเมอร์มือทองของบริษัทก็อาจจะลาออกไปก็ได้ นอกจากนี้สมชายเองก็ยืนยันอย่างหนักแน่นว่าไม่คิดจะลาออกไปอยู่ที่ไหน เพราะเขาเองก็เพิ่งจะมีลูกเล็กดังนั้นจึงต้องการความมั่นคงพอสมควร ส่วนการรับงานพิเศษของเขานั้นก็เพื่อรายได้ที่เพิ่มขึ้น กับงานที่มีความแปลกออกไปจากที่ทำอยู่เป็นประจำบ้าง เท่านั้นเอง
ท่านเองเอาเรื่องของสมชายไปคิดอยู่เป็นสัปดาห์ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เนื่องจากงานของสมชายก็ไม่บกพร่องจริงๆ แต่ท่านก็มีความรู้สึกว่าสมชายโกงบริษัททางอ้อม เช่น การใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ของบริษัท (เป็นเครื่องที่มีสมรรถนะสูงที่สุดในบริษัท เนื่องจากสมชายเป็นโปรแกรมเมอร์) ไปทำงานให้กับบริษัทอื่น อย่างไรก็ดีท่านก็ไม่สามารถเรียกสมชายเป็นคนโกงเต็มปากเต็มคำ เพราะสมชายได้ทำงานที่บริษัทมากว่าห้าปี ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต แล้วก็ได้รับการเลื่อนตำแหน่งมาตลอด งานของสมชายเองก็สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีเสมอ ท่านพยายามที่จะหาทางออกกับกรณีนี้ไม่ว่าจะช่วยหาเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำจากสหกรณ์ของบริษัทไปให้สมชายกู้ แต่สมชายก็ได้ปฏิเสธไป เนื่องจากเขาเองไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินมากมาย เพียงแต่สาเหตุที่เขารับเขียนโปรแกรมให้กับบริษัทอื่นนั้น ก็เนื่องจากความท้าทายและแปลกใหม่ รวมทั้งเขาเองก็ได้ความรู้ใหม่ๆ เข้าไปด้วย ถึงแม้ความรู้นั้นอาจจะไม่เป็นประโยชน์กับงานที่เขาทำอยู่
ท่านเองได้เรียกสมชายเข้ามาคุยเรื่องนี้อีกครั้ง เนื่องจากท่านเริ่มกังวลว่าสิ่งที่สมชายกำลังทำอยู่จะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้กับรุ่นน้องคนอื่นๆ ที่อยู่ในทีมเดียวกับสมชาย แต่ปรากฎว่าสมชายกลับดูเหมือนว่าไม่สนใจอะไรเลย เนื่องจากเขาคิดว่าเขาทำงานให้กับบริษัทได้ดีที่สุดแล้ว คนอื่นไม่ควรจะเข้ามายุ่งกับสิ่งที่เขาทำในชีวิตส่วนตัว คำถามสำหรับท่านผู้อ่านก็คือ ถ้าท่านอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าว ท่านจะทำอย่างไรครับ?
เป็นอย่างไรครับกับกรณีศึกษานี้ ผมเชื่อว่าคงจะมีท่านผู้อ่านหลายท่านที่เคยเจอสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน ไม่ทราบว่าท่านผู้อ่านมีความเห็นอย่างไรกันบ้างครับ? ท่านผู้อ่านอาจจะลองคิดคำตอบในใจเล่นๆ หรือส่งอีเมลมาให้ผมก็ได้นะครับ ในสัปดาห์หน้าเราลองมาดูกันนะครับว่าถ้าท่านอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ท่านควรจะต้องทำอะไรบ้าง